สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: รัฐบาลสหรัฐรับมือภาวะ "ปิดหน่วยงาน" อย่างไร  (อ่าน 116 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: รัฐบาลสหรัฐรับมือภาวะ "ปิดหน่วยงาน" อย่างไร

30/ก.ย./13 หัวข้อไอดี: 16021731 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16021731

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 14/พ.ย./22



     ผลกระทบของภาวะ "โกเวอร์เมนท์ ชัทดาวน์" หรือการที่หน่วยงานรัฐต้องปิดทำการชั่วคราว สืบเนื่องจากสภาคองเกรสผ่านแผนงบประมาณไม่ทันกำหนด คือภายในวันที่ 30 ก.ย.                                                          
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่าเริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้นทุกขณะว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะต้องเผชิญกับภาวะ "โกเวอร์เมนท์ ชัทดาวน์" เกิดจากการที่สภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติแผนงบประมาณสำหรับปีต่อไปได้ทันก่อนวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ ทำให้หน่วยงานรัฐหลายแห่งอาจได้รับผลกระทบถึงขั้นต้องปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องจากไม่ได้รับงบประมาณจัดสรร  ทั้งนี้ 2 ครั้งล่าสุดที่รัฐบาลกลางสหรัฐต้องประสบกับวิกฤตดังกล่าว เกิดขึ้น 2 ครั้งในช่วงปลายปี 2538-2539 สร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.1 ล้านล้านบาท ) ข้าราชการกว่า 800,000 คนต้องเวียนกันหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน  แม้จะมีบทเรียนมาแล้ว แต่หากประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยอีก มาดูกันว่าหน่วยงานรัฐแต่ละแห่งเตรียมพร้อมรับมือ หรืออาจได้รับผลกระทบอย่างไรกันบ้าง  ทำเนียบขาวและสภาคองเกรส : หน่วยงานทั้ง 2 แห่งจะยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่บางส่วนอาจได้รับคำสั่งให้หยุดงานและไม่ได้รับค่าตอบแทน ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสเริ่มรวมตัวกัน เพื่อคืนเงินเดือนบางส่วนให้แก่รัฐ สำหรับนำไปใช้ในการบริหารประเทศ หากสหรัฐต้องเข้าสู่ภาวะโกเวอร์เมนท์ ชัทดาวน์จริง  กระทรวงกลาโหม ( เพนตากอน ) : ทหารทุกนายจะยังคงประจำการอยู่ตามฐานทัพ แต่อาจได้รับค่าตอบแทนช้ากว่ากำหนดมาก ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนกว่า 50% จากทั้งหมดราว 800,000 คนต้องเริ่มผลัดกันหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน  กระทรวงการต่างประเทศ : สำนักงานทุกแห่งทั่วโลกที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศ จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ระดับล่าง หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่มีภาระงานต้องสะสางอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ลาหยุดโดยไม่รับค่าตอบแทน  องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ( นาซา ) : ภารกิจสำคัญของนาซา ที่รวมถึงการปฏิบัติงานของลูกเรือบนสถานีอวกาศนานาชาติ ( ไอเอสเอส ) และภารกิจการสำรวจดาวอังคารของยานหุ่นยนต์คิวริออสซิที จะดำเนินต่อไปโดยไม่ได้รับผลกระทบ แต่เจ้าหน้าที่ของนาซากว่า 18,000 คน จะต้องผลัดกันหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน  พิพิธภัณฑ์และอุทยานแห่งชาติ : สถาบันสมิธโซเนียนและอุทยานแห่งชาติ 368 แห่งทั่วประเทศจะปิดทำการ  สำนักงานไปรษณีย์ : เปิดให้บริการตามปกติทุกแห่งทั่วประเทศ  หน่วยงานความมั่นคง : สำนักงานข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับทุกแห่งยังเปิดให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับจุดตรวจคนเข้าเมืองตามแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโกและแคนาดา รวมถึงเจ้าหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทาง ตรวจค้นสัมภาระ และฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบินทุกแห่ง จะยังคงปฏิบัติงานตามปกติ  หน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ : สถาบันวิจัยทุกแห่งในประเทศจะไม่ได้รับอนุญาตให้เริ่มโครงการวิจัยใหม่ทุกประเภท  ระบบประกันสังคม : สำนักงานประกันสังคมจะปิดให้บริการ แต่ผู้ที่ยื่นเรื่องหรือรอรับเอกสารจะได้รับทางจดหมายแทน เช่นเดียวกับข้าราชการเกษียณรวมถึงทหารจะยังได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่าเดิม แต่การจ่ายเงินจะช้ากว่ากำหนด ขณะที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกจะยังคงให้บริการตามปกติ  กรุงวอชิงตัน : อยู่ภายใต้การบริหารงาน "พิเศษ" ของสภาคองเกรส อย่างไรก็ตาม นายวินเซนต์ เกรย์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ประกาศแล้วว่า จะไม่มีการใช้นโยบายเวียนกันลาหยุด โดยเทศบาลจะนำเงินจากกองทุนสำรองออกมาใช้จ่ายไปก่อน  เศรษฐกิจ : แน่นอนว่าต้องได้รับผลกระทบ โดยผลการวิเคราะห์จากบริษัท "มาโครอีคอนอมิค" ประเมินการเข้าสู่ภาวะโกเวอร์เมนท์ ชัทดาวน์ จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( จีดีพี ) ในไตรมาส 4 ราว 0.3%  

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : รัฐบาลสหรัฐรับมือภาวะ "ปิดหน่วยงาน" อย่างไร

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย