บสย.ชงคลังเดินหน้าค้ำประกันสินเชื่อโอท็อป-พ่อค้า-แม่ค้าวงเงินกว่า 15,000 ล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี
นายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เปิดเผยว่า บสย.ได้เสนอโครงการค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ซึ่งหากเห็นชอบจะเสนอครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป แบ่งเป็นการค้ำประกันสินเชื่อ ผู้ประกอบการขนาดย่อมหรือไมโครไฟแนนซ์ เช่น พ่อค้าและแม่ค้า วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยผู้ประกอบการได้ประมาณ 50,000 ราย ซึ่งจะเข้าไปค้ำประกันรายละไม่เกิน 200,000 บาท อายุการค้ำประกัน 5-10 ปี โดยมีอัตราค่าธรรมเนียม 1-3% และอาจจะปรับค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีก 0.25% เนื่องจากกลุ่มลูกค้าดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง ขณะที่รัฐบาลจะมีการจ่ายสมทบประมาณ 20% คิดเป็นวงเงิน 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการค้ำประกันสินเชื่อโอท็อปและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีวงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องมีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน และคิดอัตราค่าธรรมเนียมประมาณ 1.5% มีระยะเวลาการค้ำประกัน 7 ปี โดย บสย. จะรับผิดชอบในการจ่ายประกันชดเชย 25% และรัฐบาลจ่าย 14.5% หรือคิดเป็นวงเงิน 1,450 ล้านบาท ขณะเดียวกันได้ขออนุมัติปรับเงื่อนไขโครงการค้ำประกันผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพ จากเดิม บสย.ค้ำประกัน 80% เพิ่มเป็น 100% เนื่องจากธนาคารให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการน้อยมาก ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขค้ำประกันในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าเพียง 200 ล้านบาท จากวงเงินที่กำหนดไว้ 10,000 ล้านบาทโดยเงื่อนไขเดิมคือค้ำประกันไม่เกินรายละ 2 ล้านบาท แต่ต้องเป็นเอสเอ็มอีที่เริ่มกิจการใหม่และมีอายุกิจการไม่เกิน 3 ปี สำหรับผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาตัวเลขค้ำประกันสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 55,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 84,000 ล้านบาท โดยมีการจ่ายเงินประกันชดเชยไปแล้ว 2,200 ล้านบาท จากวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวมที่ 230,000 ล้านบาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปี จะมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 4% และสิ้นปีมีกำไรจากกว่า 200 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านที่อยู่ระดับ 300 ล้านบาท เนื่องจากไม่ได้หวังทำกำไรมาก แต่เน้นช่วยเหลือเอสเอ็มอีและธุรกิจรายย่อยให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการมากกว่า
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
ลุ้นคลังไฟเขียวหนุนค้ำประกันโอท็อป