เรียกว่าช่วงนี้ดวงพัวพันกับหนุ่มต่างชาติจริง ๆ สำหรับนางเอกสาวตาคม พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ที่ล่าสุดเธอก็โพสต์ภาพไปกินข้าวกับนักร้องหนุ่มเกาหลี “ปาร์ค แจบอม” หรือ “เจย์ ปาร์ค” ลงในไอจีส่วนตัว งานนี้ได้เจอพิ้งกี้มาบวงสรวงหนัง “เดอะ รูมส์ ห้องหลอน” ที่ บ.ไลอ้อนฮาร์ทพิคเจอร์ จำกัด เลยต้องให้เคลียร์สักหน่อย พร้อมถามถึงความสัมพันธ์กับพระเอกอินเดีย “สุมันต์” ด้วย ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว พิ้งกี้ เผยว่า “รูปกับเจย์ ปาร์ค เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน วันนั้นเพื่อนชวนไปกินข้าวกัน ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้รู้จักเขามากมาย รู้แค่ว่าเขาเป็นเจย์ ปาร์ค แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง ก็กินข้าวกันปกติ เขามากันหลายคน เราเหมือนไปเป็นเพื่อนของเพื่อนมากกว่า คือเพื่อนเรารู้จักกับโปรดิวเซอร์ของเจย์ ปาร์ค แต่ส่วนตัวเพื่อนกี้ก็ไม่ได้รู้จักกับเจย์ ปาร์ค เป็นการส่วนตัวนะ และเราเองไม่ได้รู้จักเขามาก่อน หรือสนิทเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าเราเป็นดารา ก็คุยกันปกติ เขาไม่มีท่าทีจีบเลย เดี๋ยวแฟนคลับเขาจะว่าเอา เรากินข้าวกันปกติ ไม่ได้มีการสานต่อ และยังไม่มีกระแสแอนตี้จากแฟนคลับเขาค่ะ” แต่เราก็มีลงคำบรรยายใต้ภาพด้วยว่า “โคลส เฟรนด์ แอนด์ กู๊ด ไวบส์” คนเลยตีความว่าอาจจะมีความพิเศษ? “ค่ะ คือเราลงว่ากู๊ดเฟรนด์ ก็คือเป็นเพื่อน ๆ ส่วนกู๊ด ไวบส์ ก็บรรยากาศดี ๆ เราก็ต้องลงว่าเป็นเพื่อน ไม่กล้าบอกว่าเป็นพิเศษค่ะ และไม่มีอะไรพิเศษด้วย คือเจย์ ปาร์ค เขาเป็นคนชอบเอ็นเตอร์เทน ขนาดเขามาปุ๊บก็เอ็นเตอร์เทนทุกคน วันนั้นน้อง ๆ ผู้หญิงก็ไปกันหลายคนค่ะ กลัวแฟนคลับแอนตี้มั้ย เราต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่เกี่ยวนะคะ หนูกินข้าวเฉย ๆ ถามว่าหนุ่มเกาหลีเป็นสเปกรึเปล่า ไม่พูดถึงเจย์ ปาร์ค นะ หนุ่มเกาหลีก็น่ารัก สะอาดตาดีเหมือนกันค่ะ” แล้ว “สุมันต์” พระเอกแขก ยังคุยกันอยู่มั้ย? “ล่าสุดที่ไปถ่ายโฆษณาที่นั่นก็ได้ไปเจอกัน ซึ่งความสัมพันธ์ตอนนี้ไม่ได้คืบหน้าอะไร เพราะพระเอกอินเดียก็ค่อนข้างถือตัวนิดนึง ด้วยความสัมพันธ์ เราก็เป็นเพื่อนร่วมงานคนนึง ตอนนี้กี้โสดจริงจังมากมาย ส่วนที่ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าน่าจะพัฒนามากขึ้น คือมันพัฒนาไม่ค่อยได้ เพราะเขาเป็นพระเอกเต็มตัว เลยไม่ค่อยอะไรมากมายในความสัมพันธ์ เราเองก็วางตัวในระดับที่ว่าเป็นเพื่อนนะ ไม่ได้แบบอยากเป็นแฟนเขา คือเราและเขาก็มีเส้นแบ่งกันอยู่ แต่เวลาที่เล่นหนัง มันต้องมีอินเนอร์เหมือนเป็นคู่รัก แต่พอกลับบ้านก็เป็นกี้กับเขาปกติที่เป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่ใช่แบบอินเลิฟตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ที่เขาบินมาหาที่ไทยและดูสนิทกัน จริง ๆ คือเขาไม่มีใครที่เมืองไทย เราก็พาเขาออกไปเที่ยว เหมือนเป็นเพื่อนและเป็นไกด์ คือเพราะทางมันไกลด้วย โอกาสพัฒนามันก็ปิดตั้งแต่ที่เริ่มจะคิดเป็นแฟนกันแล้ว ถ้าเรามีความรู้สึกว่าเป็นไปได้ มันคงคิดสานต่อ แต่นี่เราปิดประตูตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ ส่วนเขามีท่าทีจีบเรามั้ย คือถ้ากี้เข้าวงการแรก ๆ ก็คงคิดว่าเขาชอบเรารึเปล่า แต่พอเราอยู่วงการ 20 ปี เราก็เริ่มรู้ว่าไม่นะ คือพระเอกอินเดียจะเล่นถึง ตาเป็นตา จับเป็นจับ เต็มที่ทุกอย่าง ถ้าเราไม่รู้เรื่องก็แยกไม่ออก เพราะมันจะก้ำกึ่งว่าชอบเรารึเปล่า แต่พอเรารู้ไง ก็คิดว่า คงไม่มี คือเรื่องแฟนกี้ก็คิดว่าเราน่าจะมีก่อนอายุ 30 นะ ถ้าเจอคนที่ใช่ ก็จะมาบอก แล้วก็แต่งงานเลยค่ะ ช่วงหลังเป็นไปได้นะว่าชีวิตกี้พลิกเพราะเรื่องความรัก เพราะถ้าอยู่คนเดียว ทุกอย่างจะโฟลว์มาก มันเป็นช่วงชีวิตนะ พออายุ 28 ก็น่าจะมีคู่ เรื่องสเปกเราไม่มองภายนอก มองเนื้อในมากกว่า ตอนนี้คนดีสักคนมันหายาก เอาที่แบบรักเราก็หายาก มันมีแต่รักตัวเอง มันไม่ค่อยรักเราในแบบที่ผู้ชายควรจะรัก เราต้องหาคนนั้นให้ได้ค่ะ เราโสดเราก็อยู่ของเราไป ใช้ชีวิตให้มีความสุข พอพระเจ้าบอกว่าโอเค ถึงเวลาของเธอแล้วนะ ก็ส่งคนนั้นมา เราก็ไม่ต้องตามหา เดี๋ยวก็มาเองค่ะ”.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ‘พิ้งกี้’ แจงกินข้าว ‘เจย์ ปาร์ค’ แค่เพื่อนปิดโอกาสพัฒนา ‘สุมันต์’ รอคนที่รักจริง
หัวข้อ: ‘พิ้งกี้’ แจงกินข้าว ‘เจย์ ปาร์ค’ แค่เพื่อนปิดโอกาสพัฒนา ‘สุมันต์’ รอคนที่รักจริง (อ่าน 82 ครั้ง)
