“บก.เอเอสทีวีฯ” บุก ป.ป.ช. ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเอาผิด “ดำรงค์ พิเดช”ปล่อยรุกป่าดอยแม่สลอง
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการอาวุโส นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการ ได้เข้ายื่นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ระบุว่านายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าแห่งประเทศไทย เกี่ยวข้องกับการทุจริตต่อหน้าที่สมัยเป็นป่าไม้จังหวัดเชียงราย กรณีการปล่อยให้มีการรุกป่าดอยแม่สลองหลายพันไร่ โดยเฉพาะนายดำรงค์ มีการนำเอาพื้นที่ป่า 47 ไร่ ตั้งศูนย์ลิ้นจี่ ซึ่งการยื่นครั้งนี้ เพื่อให้ ป.ป.ช. นำคำพิพากษาดังกล่าวไปประกอบสำนวนที่ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สรุปส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดกับนายดำรงค์ นายตุลย์ กล่าวว่า การที่นายดำรงค์ เอาพื้นที่ป่าไปตั้งศูนย์ลิ้นจี่ เคยมีคนนำเรื่องนี้มาร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อนายดำรงค์ ทราบก็มีการเปลี่ยนเอาชื่อของคนอื่นมาสวมสิทธิ์เป็นเจ้าของ ทำให้ต่อมาอัยการสั่งไม่ฟ้อง และแม้มีการเปลี่ยนศูนย์ลิ้นจี่ไปปลูกพืชอย่างอื่น แล้วใช้ชื่อคนอื่นเป็นเจ้าของ แต่เกษตรกรที่ทำกินอยู่โดยรอบก็ยืนยันว่า สวนดังกล่าวเป็นของนายหัวเอี้ยงหรือนายดำรงค์ หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจได้มีการสอบสวนและมีหลักฐานใหม่ว่านายดำรงค์ มีการทุจริต จึงได้ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช.ดำเนินการในฐานที่นายดำรงค์ เป็นข้าราชการระดับ 8 แต่จนถึงขณะนี้ป.ป.ช.ก็ยังไม่มีการชี้มูลใดๆ ออกมา “เรื่องนี้ทางเอเอสทีวีได้ขุดคุ้ยและนำเสนอเป็นข่าว และสกู๊ปข่าว จนนายดำรงค์ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งในศาลอาญาใต้ ศาลจังหวัดเชียงราย และศาลอาญารัชดา ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องทั้งหมด แต่คำพิพากษาที่สำคัญคือ การที่ศาลอุทธรณ์ระบุว่า การเสนอข่าวของเอเอสทีวี ไม่ถือว่าเป็นความผิด เพราะเป็นการเสนอข้อเท็จจริง พร้อมทั้งระบุประเด็นความผิดของนายดำรงค์ เป็นข้อ ๆ หลายประเด็น ซึ่งผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.ในคดีดังกล่าว จึงได้นำคำพิพากษามายื่นให้กับ ป.ป.ช. รวมทั้งเกรงว่าที่ผ่านมา หากเป็นการร้องข้าราชการระดับ 8 เมื่อมาถึง ป.ป.ช.หลายคดีมักจะเงียบหายหรือขาดอายุความ จึงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคดีนี้ เพราะจะเป็นการปล่อยให้คนชั่วลอยนวล” นายตุลย์ กล่าว.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบจี้ ป.ป.ช. เร่งเอาผิด “ดำรงค์ พิเดช”ปล่อยรุกป่่า