สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: “เสกสรรค์”ชี้ไทยขาดฐานวัฒนธรรม ปชต.  (อ่าน 94 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: “เสกสรรค์”ชี้ไทยขาดฐานวัฒนธรรม ปชต.

13/ต.ค./13 หัวข้อไอดี: 16024776 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16024776

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 14/พ.ย./22




     “เสกสรรค์” ชี้ไทยขาดฐานวัฒนธรรม ปชต.หนุนคนชั้นกลางช่วยผลักดัน แนะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่เพื่อพรรคใดพรรคหนึ่ง พร้อมให้วางเฉยกลับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย          


 เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะแกนนำนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “เจตนารมณ์ 14 ตุลาเพื่อประชาธิปไตย” ตอนหนึ่งว่า 14 ต.ค.2516  เป็นการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน เจตนารมณ์การต่อสู้ 14 ต.ค.2516 เป็นการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่เป็นธรรม อยากเห็นประเทศไทยเป็นดินแดนเสรีภาพ และเป็นธรรม โดยประชาธิปไตยที่เราปรารถนาไม่เป็นเพียงระบอบของผู้นำที่ประแป้งให้ดูดีกว่าเดิมเท่านั้น แต่ต้องสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ก็เปรียบเสมือนคนเราจะบรรลุเสรีชน เป็นประชาธิปไตยและบอกให้โลกรู้ได้อย่างไร ถ้าเราไม่สามารถเลือกรัฐบาลที่ตัวเองต้องการได้  นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า ส่วนความเป็นธรรมเราจะไปถึงจุดนั้นไม่ได้ ถ้าผู้ที่ถูกเอาเปรียบไม่ลุกขึ้นสู้ อย่างไรก็ตามประชาธิปไตยไมใช่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ คำจำกัดความสั้น ๆ คือระบอบที่ให้เราเป็นนายของตัวเอง มีความเป็นพลเมืองเท่าเทียมกัน หลังปี 49 ประเทศไทยตกอยู่ในสงครามกลางเมือง การต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่สงครามไม่ใช่สิ่งปราถนาของใคร แต่ถ้าเลือกการตอบโต้แบบถึงเลือดถึงเนื้อ กับเลือกชีวิตแบบไร้ศักดิ์ศรีก็ต้องเลือกแบบถึงเลือดถึงเนื้อ โดยสาเหตุที่ทำให้ประชาธิปไตยไม่สามารถมั่นคงได้ในประเทศไทย  ตนคิดว่ามีอุปสรรคอยู่ 3 อย่าง คือ 1.อิทธิพลของคนชั้นนำที่กุมอำนาจอยู่  2.การครอบงำของมหาอำนาจนิยม และ 3.ฐานของประชาธิปไตยไม่คงเส้นคงวา  นายเสกสรรค์  กล่าวอีกว่า เราต้องยอมรับว่าประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ใหม่สำหรับประเทศไทยที่มีอายุหลายร้อยปี ประชาธิปไตยจะขยายตัวไม่ได้ ถ้าไม่แย่งพื้นที่ระบบอื่น อันนี้เป็นกฏของสังคม ตลอด 40 ปี จึงหมุนเวียนกับการรัฐประหาร สลับกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ระบอบอำนาจนิยมเป็นสิ่งที่ล้าหลัง ทำไมกลุ่มคนชั้นนำจึงไม่เปิดใจยอมรับ ประชาธิปไตยไทยยังไม่มีฐานวัฒนธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นไปได้ว่าผู้ที่มีวัฒนธรรมออกมาโค่นรัฐบาล หนุนรัฐประหารโดยไม่คำนึงถึงผลระยะยาว อย่างไรก็ตามการที่เหตุการณ์ 14 ต.ค.  เกิดขึ้นได้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าประชาชนมีพลังมากที่ผลักรัฐอำนาจนิยมออกไปได้ ประชาธิปไตยไทยจึงจำเป็นต้องมีฐานที่มั่นคง ถึงอย่างไรก็ดีในอดีตนักศึกษาและปัญญาชนเป็นหน่วยหน้า มาถึงยุคโลกาภิวัฒน์สังคมไทยเปลี่ยนแปลงมาก มหาวิทยาลัยโดนยึดโดยลูกหลานผู้มีเงิน และไม่มีสำนึกกับชนชั้นผู้เสียเปรียบ ดังนั้นในปัจจุบัน จึงไม่มีขบวนนักศึกษาแบบเดิม  นายเสกสรรค์  กล่าวต่อว่า น่าเสียดายกลุ่มคนชั้นกลางเข้าข้างทุนนิยมที่มีการขยายตัวมากขึ้น คนชั้นกลางไม่ค่อยสนใจผู้ที่อยู่ล่างกว่าตน สนใจแต่เรื่องส่วนตัวที่หลุดลอยไปจากความถูกต้อง ในนัยยะทางการเมืองหมายความว่า คนชั้นกลางเก่ามีความอ่อนไหวสูงที่กระทบต่อเศรษฐกิจ เช่นนี้แล้วประเทศไทยจึงขาดพลังผลักดันแบบน่าเสียดาย ใครเล่าจะต้องการเสรีภาพเท่ากับคนที่เสียผลประโยชน์ ปัญหาในขณะนี้พลังใหม่จะนำประเทศไปได้ไกลแค่ไหน และจะต้านระบบเก่าได้หรือไม่ เพราะอำนาจเก่าก็ไม่ยอมเสียพื้นที่ให้ จึงนำพาไปสู่ความขัดแย้ง ความเสียเปรียบทางชนชั้น  ตามความเห็นส่วนตัวพลังประชาชนเล็กคือกลุ่มคนชั้นกลางชนบทเป็นแรงขับเคลื่อนการเมืองไทย ที่ต่อต้านระบอบอำนาจนิยมได้ แต่ไม่เพียงพอขยับประชาธิปไตยไปจุดใหม่ได้  อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงการเมืองย่อมมีผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียผลประโยชน์ การรัฐประหารปี 49 เป็นการล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เป็นการพยายามพาประเทศไทยไปสู่ก่อนปี 40 ที่มีระบอบอำนาจนิยมอยู่บางส่วน ทั้งนี้ความขัดแย้งที่สุดคือกลุ่มคนชั้นนำเก่า กับกลุ่มคนชั้นนำใหม่ การรัฐประหารครั้งนั้นจึงมีสังคมรองรับ การรัฐประหารยังเป็นการประเมินกำลังต่อสู้ด้วย  "ผมมีข้อเสนอคือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อเป็นการพัฒนาระบอบการเมือง ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ยกเว้นเป็นการปกป้องรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย เพื่อให้ประธิปไตยอยู่ได้ คือต้องปกป้องกลไกประชาธิปไตยด้วย อย่างไรก็ตามองค์ประกอบสำคัญของประชาธิปไตยก็คือประชาชน ทั้งนี้ผู้รักประชาธิปไตยที่รักพรรคการเมือง ต้องรู้จักวางเฉยบ้าง ให้กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็น ท้ายสุดขบวนประชาธิปไตยไม่สามารถนำโดยคนชนชั้นเดียวได้ ถึงแม้จะมีจำนวนมากก็ตาม ต้องมีหลายชนชั้น ต้องทำให้ทุกชนชั้นรู้สึกว่าระบอบปกครองไม่ดีและจะต้องช่วยกันแก้ไข  ทั้งนี้สังคมจะอยู่รอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปกครอง" นายเสกสรรค์ กล่าว.  



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
“เสกสรรค์”ชี้ไทยขาดฐานวัฒนธรรม ปชต.

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย