จิตญาณินมองเห็นติณห์กำลังวิ่งหนีอยู่ในสวนดัดที่ปกคลุมไปด้วยควันอาคมของเบญจาก็นึกเป็นห่วง รีบตามไปช่วย แต่พอไปถึงกลับพบว่าติณห์แกล้งซ่อนแหวนไว้ให้เบญจาวิ่งตาม พอเบญจาเห็นแหวนก็หายโกรธทันที
ติณห์สวมแหวนให้เบญจา จิตญาณินยืนมองด้วยความเจ็บปวดแม้จะรู้ว่าติณห์กำลังเล่นละครอยู่ก็ตาม เบญจาเชื่อติณห์สนิทใจ ติณห์แกล้งหลอกถามถึงพ่อแม่ อ้างว่าจะไปสู่ขอ เบญจาบอกไม่รู้ว่าแม่คือใคร ส่วนพ่อก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน เธอจะได้เจอพ่อก็ต่อเมื่อพ่ออยากเจอเท่านั้น ติณห์แอบเซ็ง ลงทุนไปเกือบตาย ไม่ได้อะไรเลย
พงอินทร์ขับรถมาส่งกรรณาที่บริษัท เจ้าที่เห็นท่าทางแปลก ๆ ของคนทั้งคู่ จึงแอบฟังอยู่บนต้นไม้ กรรณาได้ยินเสียงเจ้าที่แว่ว ๆ จึงหันไปถาม พงอินทร์แปลกใจ กรรณายอมรับว่ากำลังคุยกับเจ้าที่อยู่ พงอินทร์หัวเราะขำออกมา กรรณาโมโหมาก
“นายก็คิดว่าที่ฉันได้ยินเสียงผี เป็นเรื่องแหกตา”
“เปล่านะคุณ ถ้าผมคิดอย่างงั้น ผมจะยอมให้คุณเกาหลังผมจนหลับเพื่อให้คุณคุยกับพี่พิมทำไม”
“งั้นนายบอกฉันมาให้ชัด ๆ ซิ...ว่านายเชื่อฉัน! เชื่อว่าฉันได้ยินเสียงวิญญาณจริง ๆ เชื่อว่า ฉันมีสัมผัสพิเศษ…เชื่อด้วยหัวใจของนาย...ไม่ใช่เสแสร้งแกล้งทำ”
“ผมเชื่อ...”
กรรณายิ้มดีใจ แต่แวบนึง ความแสบที่พงอินทร์เคยทำไว้ในวัยเด็ก ทำให้กรรณากลับมาระแวงอีกครั้ง พงอินทร์จำไม่ได้แล้วว่าเคยทำอะไรให้กรรณาโกรธตอนเด็ก กรรณาเล่าเรื่องในวัยเด็กให้พงอินทร์ฟัง
“โธ่คุณ! เรื่องสมัยประถมเกือบ 20 ปี มาแล้ว คุณยังเก็บมาแค้นฝังหุ่นอีกเหรอ”
“ใช่ซี นายลืมสิ่งที่นายทำกับฉันไว้ แต่สำหรับฉัน ตลอด 20 ปีฉันไม่เคยลืมนายเลย รู้มั้ยนายโจ้” “ผมดีใจมากที่คุณยังจำเรื่องตอนเด็กของเราสองคนได้ ไม่เคยเจอกัน 20 ปี คุณไม่เคยลืมผมเลย วู้”
“นี่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”
กรรณาหันขวับจะมาด่า แต่พงอินทร์ชิงพูดเสียก่อนด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ จริงใจ ตาจ้องเป็นประกาย “ผมขอโทษ ไม่ว่าผมจะเคยทำอะไรเอาไว้เมื่อตอนเด็ก ๆ...ผมต้องขอโทษคุณ ผมอยากให้คุณรู้ว่าตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว ดูผมซี...ผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กชายโจ้ที่ทำอะไรเฮี้ยว ๆ ซน ๆ ไม่รู้จักคิดเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกแล้ว จากนี้ไปไม่ว่าผมจะทำอะไร รับรองได้ว่า ผมจะไม่มีวันทำร้ายจิตใจคุณเด็ดขาด”
“เหม็นขี้ฟันนะนายโจ้ ไม่ต้องมาทำปากหวานกับฉัน ไม่ได้ผลหรอกนายโจ้”
กรรณาหันจะเดินหนีเข้าบ้าน แต่พงอินทร์คว้ามือจับไว้
“คุณก็ให้โอกาสผมซี แล้วผมจะพิสูจน์ให้ดู”
กรรณาจะดึงมือกลับแต่พงอินทร์จับไว้แน่น แถมยื่นหน้าเข้าใกล้จนกรรณาต้องเอนตัวหนี
“ก็ให้โอกาสแบบว่า...ให้ผมอยู่ใกล้ ๆ คุณ โทรฯหาคุณ มาหาคุณทุกวัน ไปรับไปส่ง ไปกินข้าวด้วยกัน เสาร์อาทิตย์ก็ไปดูหนังด้วยหัน วันหยุดเราก็ไปทะเล”
“เฮ้ย...เพ้อเจ้อ!! มาอยู่ใกล้ฉันไม่กี่วัน นายก็เผ่นแล้วล่ะ ไม่มีวันมาทนอยู่ใกล้คนที่ได้ยินเสียงผีอยู่ตลอดเวลาอย่างฉันได้หรอก”
“พนันกันมั้ยล่ะ ผมไม่เผ่นง่าย ๆ หรอก ผมไม่ใช่คนกลัวผี แล้วผมก็จะขอให้วิญญาณพี่พิมที่ตามคุ้มครองผมอยู่ช่วยคุ้มครองคนที่ผมรักด้วยอีกคน”
พงอินทร์ก้มลงจะจูบกรรณา แต่ก๊องโผล่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
ติณห์แยกจากเบญจาเดินกลับไปที่ห้อง เจอจิตญาณินยืนรออยู่ ติณห์คิดถึงญาณินมาก อยาก จะกอดแต่ไม่สามารถกอดได้ สองคนให้กำลังใจกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถจะสัมผัสกันได้
คืนนั้นกรรณานอนไม่หลับ คิดถึงแต่คำพูดของพงอินทร์ จู่ ๆ พงอินทร์ก็ส่งข้อความเสียงผ่านไลน์มาหา กรรณาเปิดข้อความเสียงฟัง อมยิ้มแก้มแทบปริ สักพักก็มีเสียงโทรฯเข้าดังขึ้นมา กรรณาคิดว่าเป็นพงอินทร์กดรับสายโดยไม่ทันได้ดูเบอร์โทรฯ
“ฉันหลับแล้ว โทรฯมาทำไมดึก ๆ ดื่น ๆ”
ปลายสายเงียบ จนกรรณาชักผิดสังเกต ก้มมองลงมือถือ เขียนว่าเป็นเบอร์ส่วนตัว กรรณาพยายามแนบหูฟังชัด ๆ แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาตามสาย
“ฮิ ๆ ๆ ๆ เตรียมตัวไว้ให้ดี...ฉันจะเอา...แก...ลงนรก” กรรณาอ้าปากค้าง เสียวสันหลังวาบ
ปาริฉัตรเห็นกรรัมภามาหาจุนจีที่กองถ่าย จึงพูดยุให้แฟนคลับที่มารอดูจุนจีอยู่หน้าโรงแรม ลุกฮือเข้าไปเอาเรื่องกับกรรัมภา
“ว้าย ๆ...ผู้หญิงคนนั้นมาอีกแล้ว คราวก่อนที่พาจุนจีหายตัวไปถึงอัมพวายังคาใจแฟนคลับไม่หายเลยนะคะ วันนี้จะมาพาจุนจีไปไหนอีก รึปล่าวก็ไม่รู้”
ลีจองกุ๊กวิ่งเข้ามาดึงกรรัมภาออกจากกลุ่มแฟนคลับ “ขอโทษครับ มีอันฮัมนีดา...มีอันฮัมนีดา...ทู้กคนอย่าเข้าใจผิดนะคร้าบคู้ณแก้มเธอเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางที่มาติดโต่จุนจีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น่ะคร้าบ”
เหล่าแฟนคลับสงบลงทันทีเมื่อรู้ว่ากรรัมภาเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทเครื่องสำอาง ลีจองกุ๊กไล่ให้กรรัมภาเข้าไปหาจุนจีก่อน ซองซูอยากเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาบ้าง รีบตามไปคุยกับกรรัมภา จุนจีเดินผ่านมาเจอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก สะบัดหน้าเดินกลับเข้าไปด้านในทันที กรรัมภาหันไปเห็นหลังจุนจีแวบ ๆ รีบขอตัวผละจากซองซูไปหาจุนจี แต่จุนจีกำลังโมโหไม่ยอมคุยกับกรรัมภา เดินหนีไปถ่ายละครต่อหน้าตาเฉย
กุมาริกาตามติดอรวีมาหาจุนจีที่กองถ่ายด้วย จุนจีถ่ายละครกับปาริฉัตร ตามบทจุนจีต้องจูบปาริฉัตร แต่กลับเห็นกุมาริกาขี่หลังปาริฉัตรแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เสียก่อน จุนจีตกใจมาก กุมาริกาหายตัวเกาะหน้าเกาะหลังปาริฉัตรไปมา ผู้กำกับสั่งคัท จุนจีบอกทุกคนว่าเห็นผีเด็ก กรรัมภารีบถอดถุงมือออก แล้วเอื้อมมือไปจับบ่าจุนจี
จุนจีตกใจมากเมื่อรู้ว่ากรรัมภารู้จักกับกุมาริกา กุมาริกาหายตัวหนีไปทันที กรรัมภารีบเดินตามไปคุยกับกุมาริกา กุมาริกาโกหกว่าอยากมาเที่ยวกองถ่ายเฉย ๆ ไม่ยอมบอกว่าตามอรวีมา กรรัมภาขู่ไม่ให้กุมาริกาไปยุ่งกับจุนจีอีก
ระหว่างพักกอง อรวีขอพบจุนจีเพื่อให้จุนจีเซ็นเอกสารที่เหลือให้ จุนจีไม่ไว้ใจอรวี ไม่ยอมเซ็นเอกสาร แถมยังโวยวายหาว่าอรวีรวมหัวกับอติเทพฆ่าพิมพ์พิลาศ อรวีร้องไห้กลัวจุนจีลนลาน
“อย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ฉันไม่ได้ทำ”
“หึ ถ้าไม่ได้ทำ คูณต้องรู้เห็นแน่ ๆ เพราะคูณเป็นคนเอากุญแจเซฟของคุณย่ามาให้ผมแต่พอโพ้มไปเปิด สร้อยเพชรของคุณย่าผมก็หายไปแล้ว มีแต่สร้อยปลอมวางไว้แทนคุณสารภาพมาซะดี ๆ ใครเป็นคนไปเปิดตู้เซฟ แล้วขโมยสร้อยเพชรคุณย่าผมไป คุณ! หรือว่าใคร? บอกมา”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ฉันไม่ได้เป็นคนเปิด ฉันไม่รู้เรื่อง”
“โพ้มไม่เชื่อคุณ บอกมา นายอติเทพหรือว่าใคร บอกมา”
ลีจองกุ๊กกับกรรัมภาเห็นท่าไม่ดีต้องเข้าช่วยดึงจุนจีออกจากอรวี และทันทีที่กรรัมภาจับตัวอรวีดึงออกมาจากจุนจีได้ ก็เห็นภาพไม้หลังเก่า ๆ...เห็นเด็กหญิงคนหนึ่งสวมชุดนักเรียน
เก่า ๆ นั่งร้องไห้อยู่ที่แคร่ไม้เก่า ๆ หน้าบ้านเด็กหญิงหน้าตาเหมือนกุมาริการาวกับเป็นคนคนเดียวกัน กำลังสะอื้นจนตัวโยน น้ำตาไหลอาบแก้ม
กรรัมภาเล่าเรื่องที่เห็นให้ทุกคนฟัง สุคนธรส ไม่เชื่อว่ากุมาริกาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอรวี วรวรรธเสนอให้สืบหาความจริงจากศพกุมาริกา สุคนธรสบอกศพกุมาริกาไม่มี หลวงปู่ทำพิธีไปแล้ว ญาณินแปลกใจมาก เพราะปกติกุมารทองเกิดจากศพเด็กที่แท้ง ตายก่อนกำหนด
สุคนธรสเล่าเรื่องต้นกำเนิดกุมาริกาให้ทุกคนฟัง “กำเนิดโกลเด้นเบบี้.. มันนานมากแล้ว ตอนนั้นฉันยังเด็ก ๆ เพิ่งเรียนวิชากับพระอาจารย์ปู่ พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่ากุมาริกาตัวนี้เป็นวิญญาณของเด็กที่ตายหลังจากคลอดออกมาไม่นาน”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 วันที่ 14 ตุลาคม 2556