กกต. ฝ่าย “บิ๊กกร๊อง” ไม่รับรองผลการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่ง “บังยี” เป็นฝ่ายกำชัยชนะขาดลอย เหตุเพราะกังขาเรื่องคำตัดสินของคณะกรรมการอุทธรณ์ว่าไม่เป็นธรรม กรณี 7 สโมสรที่มีปัญหา ด้าน “บังยี” ยืนยัน “ชนินทร์” บอกเองว่าทุกอย่างสิ้นสุดแล้วตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง
หลังจากที่ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี คว้าชัยชนะการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เหนือ “บิ๊กกร๊อง” นายวิรัช ชาญพานิชย์ ด้วยคะแนนเสียง 42-28 ล่าสุด เมื่อ 18 ต.ค. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ 1 ในคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้แถลงข่าวที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน โดย นายชนินทร์กล่าวว่าตนเป็นตัวแทนคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งฯ จำนวน 3 ใน 5 เสียงที่ไม่รับรองผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย ตนเอง, พล.ต.ต.พิสุทธิ์ พุ่มพิเชฏฐ์ ในฐานะประธาน และ นายธนา ธรรมวิหาร เนื่องจากมองว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นธรรม
นายชนินทร์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ทาง กกต. ได้เปิดให้ผู้เสียสิทธิ์ทั้ง 7 ทีมที่มีปัญหาเข้าชี้แจงแล้ว และได้มีการวินิจฉัยด้วยเสียงข้างมากบนหลักการณ์ตามที่ฟีฟ่ากำหนด คือพิจารณาจากผู้ทำทีมเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาจากเจ้าของทีม แต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่ชั่วโมง ทางคณะกรรมการอุทธรณ์ได้พิจารณากลับมติที่ทาง กกต. ออกมาทั้งหมดด้วยมติ 2 ต่อ 1 โดยไม่มีเหตุผลประกอบที่พอเพียง และไม่มีการตรวจสอบว่ามีสโมสรสมาชิกมาอุทธรณ์หรือไม่ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการฯ จึงมองว่าป็นการไม่โปร่งใสจึงไม่สามารถที่จะประทับตรายางรับรองผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นได้ ส่วนเหตุผลที่ต้องปล่อยให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะตามข้อบังคับระบุว่าต้องยึดมติของคณะอุทธรณ์เป็นที่สิ้นสุด ดังนี้นเราจึงต้องปล่อยให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. อีกทั้งยังเพื่อป้องกันปัญหาการโดนแบน
ด้าน นายวรวีร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งกล่าวว่า อยากให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่เรียกว่า กกต. นี้ ไม่ควรจะเรียกว่า กกต. เพราะคนอาจเข้าใจผิดว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ควบคุมดูแลการเลือกตั้งทั่วประเทศ ที่จริงตามธรรมนูญใหม่คณะกรรมการการเลือกตั้ง และ คณะกรรมการอุทธรณ์ จะถูกแต่งตั้งจากสมาคมฟุตบอลฯ แต่ในการประชุมครั้งก่อนมีการตกลงกันว่า ทั้งสองฝ่ายจะเสนอชื่อคณะกรรมการฝ่ายละ 4 คน แบ่งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง 5 คน คณะกรรมาอุทธรณ์ 3 คน ฝ่ายคุณวิรัช ชาญพานิชย์ จับสลากได้เป็นฝ่ายเลือก กกต. ดังนั้น คุณวิรัช ก็เสนอชื่อ กกต. มา 3 คน ส่วนตนเสนอไป 2 คน ขณะที่คณะกรรมการอุทธร์ ตนเสนอชื่อไป 2 คน ฝ่ายคุณวิรัช 1 คน
นายวรวีร์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนการเลือกตั้ง คุณวิรัช โวยเรื่องผู้ใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนและขอประท้วง แต่ คุณชนินทร์ ได้เป็นคนอธิบายกับคุณวิรัช เองว่าทุกอย่างเป็นที่สิ้นสุดแล้ว เพราะได้พิจารณาและมีมติไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรต้องมาพิจารณากันอีก ต้องดำเนินการการเลือกตั้ง และเมื่อมีการเลือกตั้งและนับคะแนน ตนเองเป็นฝ่ายชนะ กระบวนการสิ้นสุดก็ไม่เห็นมีการทักท้วงว่าไม่บริสุทธิ์ หรือมีการโกงกันในจุดไหน กกต.ชุดนี้พูดเองว่าไม่มีอะไร และฟีฟ่า กับ เอเอฟซี ก็รับรอง แต่หลังจากเลือกตั้งแล้ว กลับมีข่าวออกมาว่า กกต.อาจจะไม่รับรอง และมาแถลงกันในวันนี้
อย่างไรก็ตาม นายวรวีร์ กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์แสดงความยินดีจากผู้บริหารวงการฟุตบอลระดับนานาชาติมากมาย ทั้งประธานเอเอฟซี เลขาธิการเอเอฟซี, สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นก็ส่งสารแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการ รวมทั้งสมาคมฟุตบอลจากแถบตะวันออกกลางทั้งหมด, จากเอเชียใต้ และกลุ่มอาเซียน หลายคนโทรศัพท์มาแสดงความยินดี และบอกว่าตนเองสมควรทำหน้าที่ต่อไป.
กกท.ระบุเลือกตั้งบอลไม่สะดุด
นายสมพร ไชยสงคราม ผอ.กองนิติการ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งได้ไปร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้เปิดเผยว่า การเลือกตั้งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนเห็นว่าทุกอย่างก็ดำเนินไปตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลฯและประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์จึงดำเนินการเลือกตั้งไปจนสิ้นสุด โดยขั้นตอนต่อไป สมาคมฟุตบอลฯต้องส่งรายงานการประชุมและผลการเลือกตั้งมายัง กกท. ภายใน 15วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง จากนั้น กกท.จะพิจารณาว่าคุณสมบัติทุกอย่างของทุกคนถูกต้องหรือไม่ และ กกท.ก็จะออกหนังสือถึง กรมการปกครองว่า กกท.ได้ตรวจสอบแล้ว จากนั้นสมาคมฟุตบอลฯจะต้องยื่นหนังสือถึงกรมการปกครองภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง เพื่อให้ กรมการปกครอง ตรวจสอบอีกครั้งว่า การเลือกตั้งขัดกฎหมายหรือไม่ หากไม่ขัดก็จะให้นายทะเบียนกรมการปกครองไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งถือเป็นอันสิ้นสุด.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบกกต. ฝ่าย “บิ๊กกร๊อง” ไม่รับรองผลการเลือกตั้ง