สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: กระจกยักษ์สะท้อนแสง - สารพันต่างแดน  (อ่าน 87 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: กระจกยักษ์สะท้อนแสง - สารพันต่างแดน

03/พ.ย./13 หัวข้อไอดี: 16028879 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16028879

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 22/พ.ค./24


             ผู้คนในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “รูแกน” ซึ่งตั้งอยู่ในก้นหุบเขาระหว่างภูเขาสูงชันหลายลูกในเขตเทเลมาร์ก ห่างจากกรุงออสโล เมืองหลวงประเทศนอร์เวย์ ไปทางตะวันตกราว 150 กิโลเมตร กำลังตื่นเต้นไปกับแสงแดดในฤดูหนาวเป็นครั้งแรก ทั้งนี้เป็นเพราะกระจกขนาดใหญ่ที่ทำให้พวกเขาได้สัมผัสไออุ่นจากแสงแดด ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก    ภูเขาหลายลูกที่รายล้อมหมู่บ้าน “รูแกน” ยังห่างไกลจากเทือกเขาหิมาลัยที่กล่าวกันว่าสูงที่สุดในโลก แต่เทือกเขาที่รายล้อมหมู่บ้านของนอร์เวย์ก็มีความสูงพอที่จะทำให้ชาวบ้านราว 3,500 คนได้รับแสงแดดโดยตรงปีละ 6 เดือนเท่านั้น แต่การสร้างกระจกยักษ์ขนาด 400 เมตร แล้วนำไปติดตั้งไว้ที่บริเวณด้านข้างของภูเขา ทำ ให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น เพราะกระจกสามารถสะท้อนแสงแดดให้ลงมายังหมู่บ้าน จะว่าไปแล้วแนวคิดสร้างกระจกยักษ์ให้สะท้อนแสงแดดมีมาตั้งแต่ 100 ปีก่อน    ออยน์สไตน์ โฮแกน ผู้ประสานงานของโครงการกระจกยักษ์ในหมู่บ้านบอกว่า แนวคิดนี้ถือว่าพิลึกกึกกือพอสมควร และมีมาตั้งแต่การสร้างหมู่บ้าน “รูแกน” ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่ก็มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ ท่อส่งขนาดยักษ์และเส้นทางรถไฟที่ขนส่งปุ๋ยไปขายทั่วโลก แซม อีด นักอุตสาหกรรมชาวนอร์เวย์สั่งให้สร้างหมู่บ้าน  ขึ้นมา และเขายังได้พบนอร์สก์ ไฮโดร จึงต้องการเอาประโยชน์จากน้ำตกขนาดมหึมาผลิตปุ๋ยเคมี ดังนั้นจากชาวบ้าน 300 คนที่อาศัยในหมู่บ้าน “รูแกน” เมื่อปี 2443 ได้กลายเป็น 10,000 คน ในปี 2456 ซึ่งความทะเยอทะยานของนักอุตสาห กรรมรายนี้ ทำให้ผุดโครงการสะท้อนแสงแดดลงมายังหมู่บ้าน แต่สไตนาร์ เบิร์กสลันด์ นายกเทศมนตรีบอกว่า แผนการสะท้อนแสงแดดในยุคนั้น เป็นหนึ่งในไม่กี่โครงการที่แซม อีด ทำไม่สำเร็จ เนื่องจากขาดแคลนเทคโนโลยีที่เหมาะสม     เมื่อราว 10 ปีก่อน มาร์ติน แอนเดอร์เซ่น ศิลปินที่เดินทางจากกรุงปารีสของฝรั่งเศสมายังหมู่บ้าน “รูแกน” พร้อมด้วยแนวคิดกระจกยักษ์ แต่ไอเดียนี้ถูกท้าทายจากชาวบ้านบางคนที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการนำเงินของประชาชนไปลงทุนสร้างกระจกขนาดมหึมา แทนที่จะนำเงินไปใช้ในด้านโรงเรียนและสถาน  รับเลี้ยงเด็ก บางคนตราหน้าโครงการนี้เป็นมิกกี้ เมาส์ หรือโครงการที่ไม่สำคัญ สุดท้ายฝันเป็นจริง เมื่อโครงการสร้างกระจกยักษ์สามารถระดมเงินได้ถึง 5 ล้านโครเนอร์ หรือราว 26 ล้านบาท แต่ในจำนวนดังกล่าว มีถึง 4 ล้านโครเนอร์มาจากสปอนเซอร์ (ผู้สนับสนุน) ต่าง ๆ และประสบความสำเร็จในการสร้างกระจกยักษ์ 3 บาน ขนาด 17 ตารางเมตร ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้าน และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมกระจกให้หันตามทิศทางของดวงอาทิตย์ เพื่อสะท้อนแสงแดดมายังพื้นที่ในหมู่บ้าน ด้วยรูปทรงที่เป็นวงรีขนาด 600 ตารางเมตร     โดยกระจกยักษ์สะท้อนแสงมีกำหนดเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 31 ตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง นอกจากชาวบ้านจะได้สัมผัสแสงแดดในฤดูหนาวเป็นครั้งแรกแล้ว ทาง  การท้องถิ่นหวังเม็ดเงินจากการที่สื่อประโคมข่าว จนทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนหมู่บ้าน “รูแกน” มากขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น ชาวหมู่บ้าน “รูแกน” ยังหวังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 2558 ในฐานะตัวอย่างจากความอัจฉริยะทางอุตสาหกรรมของมนุษย์.  ฮิวแมน          



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
กระจกยักษ์สะท้อนแสง - สารพันต่างแดน

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย