เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง ได้เชิญนางพะเยาว์ อัคฮาค มารดา น.ส.กมลเกด อัคฮาค พยาบาลอาสาสมัครที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 และนายธีรวุฒิ ประกายสันติสุข ทนายความอิสระ ซึ่งทำคดีระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าให้ข้อมูลกรณีที่นางพะเยาว์ได้ยื่นคำร้องขอให้ กสม. ช่วยเหลือให้นักโทษในคดีชุมนุมทางการเมืองได้รับสิทธิในการประกันตัว นางพะเยาว์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีนักโทษที่ไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำหลักสี่รวม 23 คน ซึ่งที่ผ่านทั้งตัวนักโทษ หรือผู้ที่เข้าช่วยในเรื่องคดีต่างไม่ทราบถึงเหตุผลว่า ทำไมศาลจึงมีดุลยพินิจไม่ให้ประกันตัว รวมทั้งในบางรายอาจมีปัญหาเรื่องหลักทรัพย์ที่จะใช้ประกัน เป็นไปได้หรือไม่ที่อนุกรรมการฯ จะเข้าไปช่วย เช่น ในชั้นการยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาล นพ.นิรันดร์ สามารถไปเป็นพยานยืนยันต่อศาลได้หรือไม่ว่า สิทธิในการประกันตัวนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นที่ฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ และเมื่อศาลยังไม่มีคำพิพากษามา ต้องถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ ย่อมต้องได้รับสิทธิในการประกันตัวเพื่อสู้คดี “นักโทษที่อยู่ในเรือนจำ เขาไม่ได้รับรู้ว่าข้างนอกเป็นอย่างไร มีคนไปบอกเขาว่ารออีกนิด ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม กำลังจะประกาศใช้ เขาก็เชื่อแบบมีหวังถึงขนาดเชื่อว่าจะประกาศใช้วันสองวันนี้ แต่เราอยู่ข้างนอกรู้ว่าแค่ผ่านวาระแรกยังมีความวุ่นวายเกิดขึ้น แล้วนี่รัฐบาลจะดันให้สุดซอยจะได้อย่างที่ว่าหรือเปล่า ก็ไม่รู้ สถานการณ์ความวุ่นวายขณะนี้บอกตรง ๆ กลัวจะรุนแรงเหมือนปี 53 และถ้าสมมุติว่ารัฐบาลดันจนผ่านรัฐสภามาได้ แล้วมาติดกับดักที่ศาลรัฐธรรมนูญตีกฎหมายนี้ตกไป ที่เราสู้มามันไม่มีความหมาย ฉะนั้นเราก็บอกคนที่อยู่ในเรือนจำว่าเราอยู่ข้างนอกเรารู้ เราเห็นว่ามันไม่ง่ายเลย ขวากหนามมันเยอะ จึงไม่อยากให้ไปรอตรงนั้นเพียงอย่างเดียว เพราะก็ไม่รู้ว่ากฎหมายจะไปถึงฝั่ง ทำให้พวกเขาได้รับการปล่อยตัวแล้วหมดคดีเลยอย่างที่มีคนไปให้ความหวังไว้หรือเปล่า แต่ควรทำเรื่องการขอประกันตัวคู่ขนานไปด้วย” นางพะเยาว์ กล่าว ด้านนพ.นิรันดร์ กล่าวว่า หลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 กสม.พยายามเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องสิทธิการประกันตัวกับนักโทษที่ถูกคุมขังตั้งแต่แรก และพยายามนำทนายของสภาทนายความเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกมองว่า กสม. เป็นพวกเสื้อเหลือง รวมถึงต่อมาเมื่อเข้าไปเยี่ยมนักโทษในเรือนจำ ก็ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นจริงจาก ทั้งฝ่ายทนายและตัวนักโทษ แต่ล่าสุดเมื่อนางพะเยาว์มายื่นคำร้อง และต้องการให้อนุกรรมการฯ เข้าไปช่วย ตนเองก็พร้อมที่จะไปเป็นพยานชี้แจงในเรื่องของสิทธิการประกันตัวที่นักโทษควรจะได้รับต่อศาล รวมทั้งการใช้ตำแหน่งกรรมการสิทธิช่วยประกันตัว หรือในรายอื่น ก็พร้อมที่จะประสานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องของทุนประกันตัว แต่ทั้งนี้ทนายและตัวนักโทษก็ต้องพร้อมที่จะให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับอนุกรรมการฯ ก่อน.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบบอก"เสื้อแดง"อย่าฝันได้พ้นค้นจาก ก.ม.นิรโทษ