สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556  (อ่าน 77 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556

07/พ.ย./13 หัวข้อไอดี: 16029670 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16029670

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 22/พ.ค./24


              เมขลาทำทีมาขอให้ลูกน้องของกำนันโกมลทำแบบสอบถาม เพื่อดึงความสนใจและให้คิมหันต์แอบเข้าไปในบ้านโกมล เพื่อหาหลักฐานโดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ที่ชาวบ้านช่วยกันหามาและถูกถ่ายเทมาเก็บไว้ที่บ้านโกมล คิมหันต์ไปเจอห้องหนึ่งที่ใส่กุญแจไว้และสงสัยว่าจะเป็นที่เก็บเมล็ดพันธุ์ แต่บังเอิญกำนันโกมลกลับมาบ้านเร็วกว่าปกติ แปลกใจ สงสัย ที่คนของเพียงพอดีมาทำแบบสอบถาม เมขลาพยายามแก้ตัวว่าอยากได้ความเห็นของคนในระดับผู้นำตำบลด้วย แต่ก็ไม่วายถูกกำนันโกมลจับได้ทั้งคู่    อันยารดน้ำต้นสตรอเบอรี่เหม่อลอย สิงห์มาคุยและปลอบใจว่าเพราะแสนเป็นห่วงถึงได้โกรธอันยามากขนาดนั้น อันยาส่ายหน้า น้อยใจว่าแสนไล่เธอ    “บางทีมันอาจจะจริงอย่างที่คุณแสนพูด ว่าที่ฉันทำมันไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีวัน”    “คุณบอกว่ามาแข่งขันเพื่ออะไรนะ อยากจะให้นายแสนเข้าใจว่าคุณเสียใจมากแค่ไหนใช่มั้ย งั้นก็อย่าเพิ่งตัดรอนตัวเอง...ถ้าคุณจะปลูกความเชื่อใจลงในใจของใคร คุณก็จะต้องเชื่อในตัวเองให้ได้ซะก่อน” สิงห์พยายามขจัดความท้อของอันยา อันยาครุ่นคิดหนัก    คิมหันต์และเมขลาถูกจับมัดไว้ กำนันโกมลคาดคั้นว่าทั้งสองมาทำอะไร แต่คิมหันต์และเมขลาปิดปากเงียบ ลูกน้องโกมลจึงเริ่มเอามีดออกมาขู่ คิมหันต์คิดหาทางออกจึงโพล่งออกไปว่าต้องการได้ส่วนแบ่ง เพราะแสนก็ไม่ยอมเซ็นสัญญากับวิชชั่นออฟฟิวเจอร์ ส่วนอันยาก็เตลิดไปแล้วเพราะกลัวถูกฟ้อง เขาเลยไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลย ทั้งที่ลงทุนลงแรงไป    “ถ้า! ถ้าเรามีเมล็ดพันธุ์มาขายอีกล่ะ” เมขลาโพล่งออกมา “ก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าพวกคุณคงไม่ยอมแบ่งเงินให้ พอดอกเตอร์แสนลาออกไปโครงการก็หยุดชะงัก เมล็ดพันธุ์ที่เหลือ..ก็ถูกทิ้งอยู่แบบนั้น ถ้าพวกคุณสนใจฉันจัดการให้ได้นะ”    “คิดว่าพวกเราจะสนใจไอ้เมล็ดพันธุ์บ้าน ๆ นั่นเหรอ”    “แต่มันก็ขายได้ไม่ใช่เหรอ ถ้าขายให้ที่อื่น ที่เค้าไม่มีพันธุ์พวกนี้ ผมรู้นะ คุณไม่ได้แค่จัดฉากแต่เอาของเราไปขายจริง ๆ ลองมีคนซื้อครั้งนึงแล้ว ก็ต้องขายได้อีก”    โกมล ลูกน้องมองหน้ากัน ความโลภชักจะเข้าครอบงำ แต่โกมลยังมีสิ่งที่ค้างคาใจ “แล้วทำไมพวกแกต้องลอบเข้ามาด้วย ถ้าจะมาถามเรื่องเงินตั้งแต่แรก”    คิมหันต์ และเมขลาชะงัก จะตอบยังไงดี “ก็ไม่คิดว่ากำนันจะยอมน่ะสิ ก็เลยจะหาเมล็ดพันธุ์ที่เหลือเอามาแบล็กเมล์” คิมหันต์บอก ลูกน้องโกมลจะทำร้ายคิมหันต์ เมขลาแกล้งขู่ว่าจะไม่เอาเมล็ดพันธุ์ให้ โกมลรีบห้ามลูกน้องทันทีเพราะคิดถึงเงินที่จะได้จากงานนี้    โกมลยอมปล่อยคิมหันต์และเมขลา รู้สึกสะใจที่คนรอบตัวแสนต่างพากันหักหลังแสนกันหมด คิมหันต์และเมขลาขับรถออกมาไกลพอสมควรก็หยุดรถ และเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดฟัง    “พวกแกจะขายเท่าไหร่ ถ้าโก่งราคาก็อย่าคิดนะว่าฉันจะสนใจ” เสียงโกมลดังออกมา คิมหันต์เยส “อัดติดจริง ๆ!”    “ไม่อยากเชื่อเลย เราทำได้ ทำได้จริง ๆ” เมขลายิ้มออกมา ลิงโลดมาก     “คุณหัวไวมากเลยนะ ที่หลอกพวกมันให้อยากได้เมล็ดพันธุ์ที่เหลืออยู่ในโครงการ” คิมหันต์ชม    “ก็ฉันยังไม่อยากตายนี่ ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียว ว่าต้องรอด ต้องเอาความจริงมาช่วย    ดอกเตอร์ให้ได้ แล้วคุณเจ็บมากมั้ย” มองแผลโดนซ้อมบนหน้าคิมหันต์    “ไม่เล้ย ผมลืมความเจ็บไปแล้ว สิว ๆ” จับแผลโชว์ แต่ดันเจ็บซะนี่ “อู๊ยยยย!!!” เมขลาหาพลาสเตอร์ในกระเป๋าออกมาแปะให้ คิมหันต์ขอบคุณ สานตามองซึ้ง ๆ เมขลาเขินไม่กล้าสบตา    หญิงเหมือน อิ๊งค์กี้และปุ๊กลุก ช่วยกันเอากระเป๋าและข้าวของของอันยาออกมาทิ้งไว้หน้าบ้านพัก เพราะถือว่าแสนไล่อันยาแล้ว แถมยังทำลายข้าวของอันยาอีกด้วย ปากก็ต่อว่าอันยาต่าง ๆ นานาที่ทำร้ายแสนแล้วยังมีหน้ามาอยู่ให้แสนเดือดร้อนอีก    อันยากดดัน เสียใจ นํ้าตานองหน้า “สำหรับพวกคุณ ถ้าไปจากคุณแสนวันนี้ ก็ยังมีโอกาสได้เจอเค้า เพราะถึงยังไงพวกคุณก็เป็นเพื่อนเค้า แต่ฉัน! คนที่ทำร้ายเค้าอย่างฉัน ถ้าวันนี้ฉันหันหลังเดินจากเค้าไป ฉันก็จะไม่มีวันได้เจอเค้าอีกเลย...ฉันถึงหันหลังกลับไม่ได้! ฉันรู้ว่าพวกคุณเกลียดฉัน อยากให้ฉันไป!! แต่ถ้าฉันไป ฉันต้องสูญเสียเค้าไปตลอดชีวิต พวกคุณไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าฉันรู้สึกยังไง” อันยาเดินผ่ากลางสามคน พรวดเข้าห้อง ปิดประตูปัง!!    ทั้งสามคนอึ้งกันไป...โดยเฉพาะหญิง    เหมือนและอิ๊งค์กี้ที่เห็นเหตุการณ์ที่นํ้าตก    โต๊ะอาหารเย็น ทุกคนพูดเชิงแซวแสนที่ช่วยนางเอกแบบสุดชีวิตในวันนี้ แสนไม่ชอบใจนักบอกเขาไม่อยากให้มาตายต่อหน้าต่อตา สิงห์หมั่นไส้น้องชายที่ใจแข็ง ปากแข็ง บอกว่าแสนเป็นห่วงจึงพยายามช่วยอันยา เพื่อให้แสนยอมรับใจตัวเองเสียที แต่แสนไม่เล่นด้วย    “ทุกคนคิดอะไรอยู่ก็ตาม แต่ที่ผมอยากให้เค้ากลับไป เป็นความจริง แล้วเค้ายิ่งกลับไปเร็วเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีกับตัวเค้าเองมากเท่านั้น” แสนจะเดินไป สินถามขึ้น นํ้าเสียงซีเรียส “แล้วมันดีกับเรามั้ย” แสนหันมา “แน่นอนสิครับ...”    แสนตอบก่อนจะเดินออกไป...แต่ในใจไม่ได้หนักแน่นเหมือนเสียงและท่าทางที่พยายามแสดง    หญิงเหมือนและอิ๊งค์กี้คิดทบทวนสิ่งที่เห็น ระหว่างอันยาและแสน โดยเฉพาะตอนที่แสนช่วยชีวิตอันยา รู้สึกว่าทั้งสองมีใจให้กันมาก จนไม่มีใครเข้าไปแทรกได้ จึงตัดสินใจที่จะกลับกรุงเทพฯ มีเพียงปุ๊กลุกที่ยังไม่ยอมแพ้ เช้าวันรุ่งขึ้นสองสาวก็มาลาครอบครัวแสน อันยาแปลกใจมาก สองสาวยังเชิดใส่อันยาจนหยดสุดท้าย แต่ก่อนไป หญิงเหมือนกระซิบบอกอันยา    “ระหว่างเธอกับยัยนี่” พุ่งสายตาไปที่ปุ๊กลุก “ที่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร ฉันยอมยกแสนให้เธอ ถ้ามันได้แสนไป ฉันคงต้องเอาปี๊บคลุมหัวบินไปเมืองนอก อย่าไปยอมมันเชียว!”    อันยาชะงัก นึกไม่ถึงที่ ม.ร.ว.เหมือนจะมาออกตัวเชียร์ หญิงเหมือนกับอิ๊งค์กี้ต่างก้าวขึ้นรถของตัวเองดุจดั่งนางพญา โบกมือลาแสน อาลัยม้ากมาก อันยามองตามรถทั้งสองคันที่แล่นไป...เห็นหญิงเหมือนยังทำปากขมุบขมิบออกมา “อย่าลืมล่ะ” อันยาหัวเราะขำเบา ๆ    คิมหันต์และเมขลาเอาคลิปเสียงที่อัดมาให้บุรินทร์ฟัง เพื่อเป็นพยานว่าสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเป็นความผิดของแสน ที่แท้เป็นฝีมือของโกมล     “แล้วที่คุณทำแบบนี้ ไม่กลัวจะต้องคดีไปด้วยเหรอ” บุรินทร์ถาม คิมหันต์ใจจริงก็กลัว มองหน้าเมขลาขอความเข้มแข็ง ก่อนจะตอบบุรินทร์ “กลัวครับ แต่เวลาที่ผ่านมา ที่ผมทำเรื่องไม่ดีกับดอกเตอร์ มันไม่สบายใจอยู่ลึก ๆ ตลอด อย่างน้อยความรู้สึกนั้นมันก็จบลงซะที”    “บอสคะ อันโกะกับคุณคิมสำนึกผิด แล้วก็พยายามแก้ไขความผิดด้วย เราไม่เอาเรื่องพวกเค้าไม่ได้เหรอคะ” เมขลาแอบเป็นห่วงคิมหันต์    “ความผิดที่เค้าทำ ถ้าแจ้งความก็เป็นคดีอาญาทันที ไม่ใช่ผมจะตัดสินใจเองได้ คุณเองก็คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้า...เรื่องมันเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ผมจะขอให้ทางบริษัทเราไม่เอาเรื่องคุณกับอันยาเพิ่มก็แล้วกัน” บุรินทร์บอก    “แค่นี้ ก็ขอบคุณมากแล้วล่ะครับ แล้วก็...ขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ ครับ” คิมหันต์บอกด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ    พิลาสินีแทบช็อก เมื่อได้รู้เรื่องจากบุรินทร์ “เรื่องขายเมล็ดพันธุ์เป็นฝีมือกำนันโกมล บอสมีหลักฐานแล้วด้วย แล้ว...แล้วหลักฐานพวกนั้น ที่บอกว่าแสนโกง”    “ก็...ฝีมือของพวกนั้น จัดฉากหลอกเรา” บุรินทร์พูดรวม ๆ เพื่อไม่ให้กระทบคิมหันต์กับอันยา พิลาสินีได้แต่นิ่งอึ้ง และพูดไม่ออก     “แพม...แพมงงไปหมดแล้ว แล้วที่แพมโกรธแสนมาตลอดหลายเดือนเนี่ย รู้สึกว่าเราตัดขาดกันแล้ว ไม่ใช่แม้แต่คนรู้จัก! แล้วจู่ ๆ บอสก็มาบอกว่าแสนไม่ผิด แล้วยังงี้...แพมควรจะทำยังไง แพมพูดกับแสนเค้าแรงมาก แรงมาก ๆ ตอนหลัง ๆ แสนไม่แก้ตัวอะไรเลย เค้าแค่ชดใช้ความผิดแล้วก็ลาออก หน้าเค้า แพมก็ยังไม่ยอมมองด้วย ซํ้า...” พิลาสินีอึดอัดมาก ร้องไห้ออกมาเลย    บุรินทร์มองพิลาสินีเข้าใจ “แพม..คุณไม่รู้นี่ ว่ามันจะมีการใส่ร้ายกันเกิดขึ้น”    “แพมทำร้ายแสนได้ยังไง ทำได้ยังไง...” พิลาสินีร้องไห้หนักขึ้น บุรินทร์แตะมือปลอบ พิลาสินีร้าวรานใจ...ไม่สามารถหมุนวันเวลาแย่ ๆ เหล่านั้นมาแก้ไขได้อีก    หญิงเหมือนและอิ๊งค์กี้กลับกรุงเทพฯไปแล้วทำให้อันยาหมดคู่แข่ง ครอบครัวแสนเลยให้อันยาปลูกสตรอเบอรี่ต่อ หากได้ผลดีก็จะยอมรับในตัวอันยา ปุ๊กลุกบอกเธอยังเป็นคู่แข่งอีกคน แต่ครอบครัวแสนไม่สนใจ ฟองคำว่าหากปุ๊กลุกท้องกับแสนจริงก็ไม่ต้องกลัว เพราะยังไงแสนก็ไม่ทอดทิ้งแน่ ปุ๊กลุกถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก ได้แต่มองอันยาอย่างหมั่นไส้    คิมหันต์โทรฯมาหาอันยา แต่อันยาโทรฯกลับไม่ได้เพราะแบตมือถือหมด ที่ชาร์จก็พังเพราะโดนหญิงเหมือนและอิ๊งค์กี้อาละวาด เช้าวันรุ่งขึ้นอันยาเลยจะขอติดรถสิงห์เข้าไปในเมืองด้วย สิงห์เลยหันไปตะโกนฝากให้ไปกับแสนที่กำลังจะเข้าเมืองเชียงใหม่พอดี อันยาเหวอไปตั้งตัวไม่ทัน เมื่อสิงห์ดันหลังอันยาให้ขึ้นไปนั่งในรถ แสนก็อึดอัดทำหน้าไม่ถูก อันยาบอกจะไปเอง แต่สิงห์รีบบอกว่าไปด้วยกันประหยัดน้ำมัน แสนเลยต้องยอมตกลง อันยาหันไปมองสิงห์ สิงห์พยักหน้าเชียร์ ทำให้อันยาค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย    ระหว่างทางอันยาพยายามชวนคุย แต่แสนก็เก๊กตลอดจนอันยาอึดอัดและนั่งเงียบตลอดทาง อันยาให้แสนมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และว่าจะกลับเอง แต่แสนบอกจะมารับตอนบ่ายสอง จะได้กลับถึงไร่ไม่ค่ำมาก อันยารีบพยักหน้า ดีใจที่แสนเริ่มมีน้ำใจกับเธอ    หลังเลิกประชุมกับข้าราชการที่อำเภอ ตำรวจมาดักรอกำนันโกมล พร้อมเชิญไปที่โรงพักมีหลักฐานว่าโกมลและลูกน้องเกี่ยวข้องกับการขโมยเมล็ดพันธุ์ของบริษัทเพียงพอดี โกมลอึ้งหน้าถอดสี เพื่อนข้าราชการต่างมองอย่างประหลาดใจ โกมลหน้าถอดสี และเสียหน้ามาก ๆ พยายามแก้ตัวว่าเป็นการเข้าใจผิด แต่ตำรวจยังยืนยันที่จะเชิญไปโรงพัก    อันยารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมาตั้งแต่เช้า ยิ่งมาเจอแอร์ในห้างก็เริ่มจาม พอเข้าไปซื้อที่ชาร์จแบตกลับหากระเป๋าสตางค์ไม่เจอและซื้อไม่ได้ รวมทั้งต้องเตร็ดเตร่จนกว่าจะถึงเวลา แสนจอดรถจะลงไปทำธุระที่ธนาคาร และเห็นว่ากระเป๋าสตางค์ของอันยาหล่นอยู่ จึงรีบทำธุระและกลับไปรับอันยาที่ห้าง     อันยาจะออกมารอแสนที่จุดนัดพบ แต่หน้ามืดเป็นลมจนเกือบจะถูกรถชน แสนไปถามร้านขายที่ชาร์จแบต คนขายบอกว่าอันยามาซื้อแต่ไม่มีเงินจึงฝากของไว้ก่อน แสนจึงซื้อที่ชาร์จแบตและเดินออกมารออันยาตรงจุดนัดพบ ถึงเวลานัดแล้วแต่ไม่เห็นอันยา พลันสายตาเหลือบไปเห็นคนมุงดูอะไรกันอยู่ จึงเข้าไปดูบ้าง พอเห็นอันยาหมดสติอยู่ก็ตกใจ พอแสนประคองอันยาก็รู้ว่าอันยาตัวร้อนมากจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าอันยาอ่อนเพลียและโหมงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน แสนรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก หมอยังให้นอนรอดูอาการคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไข้ลดค่อยกลับบ้าน แสนโทรฯบอกที่บ้าน ปุ๊กลุกโวยวายที่แสนจะต้องอยู่กับอันยาทั้งคืน แต่ครอบครัวของแสนไม่มีใครสนใจ สร้างความแค้นใจให้กับปุ๊กลุกเป็นอย่างมาก    แสนนั่งอยู่ข้างเตียง มองดูอันยาหลับด้วยสำนึกผิด แม้อันยาจะทำทุกอย่างเพื่อลบล้าง แต่เขาก็ยังต่อต้านแม้ภายในใจจะปวดร้าวเต็มที แสนกุมหน้าผาก...มันยากเหลือเกิน..ที่ต้องมาอยู่ตรงจุดนี้...แสนมองอันยาที่หลับใหล  มือเอื้อมออกไปใกล้วงหน้าของอันยา...ปลายนิ้วเกือบจะสัมผัสกับเรือนผม...แต่ดึงมือกลับ..และกำมือเอาไว้อย่างหักห้ามใจ    รุ่งขึ้น แสนพาอันยากลับมาที่ไร่แสนรัก และยังให้อันยาพักผ่อน โดยจะจัดคนงานไปช่วยดูแลต้นสตรอเบอรี่แทน อันยาก็อดซึ้งใจที่แสนดูเป็นห่วง เดินไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองแสน พอเห็นแสนมองกลับมา อันยารีบหันหน้าหลบ เขินที่โดนจับได้ว่าแอบมอง แต่พอหันไปอีกที...ก็เห็นว่าแสนมีรอยยิ้ม  บาง ๆ ให้ ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง    อันยาเป็นห่วงต้นสตรอเบอรี่มาก แม้จะป่วยแต่ก็ยังอดไปดูแลไม่ได้ ถึงขั้นหลับตาไปดูแปลง หนานปิงเห็นก็ยิ่งเอ็นดูอันยามากขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับปุ๊กลุกเป็นอย่างมาก ตกกลางคืนอันยาผล็อยหลับไปด้วยฤทธิ์ยา ปุ๊กลุกแอบเอายาฆ่าแมลงไปรดต้นสตรอเบอรี่ทั้งแปลง เพราะหวังจะให้อันยาหมดข้ออ้างที่จะอยู่ในไร่แสนรักต่อไป อันยาสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงหน้าต่างกระทบกันเพราะแรงลม อันยาไม่เห็นปุ๊กลุกก็เป็นห่วงจึงถือไฟฉายออกเดินตามหา และบังเอิญไปเจอปุ๊กลุกกำลังเอาย่าฆ่าแมลงรดต้นสตรอเบอรี่อยู่ก็ตกใจมาก    “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะปุ๊กลุก!! เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ !!” อันยาเข้าไปกระชากถังน้ำยาฆ่าแมลง แต่ปุ๊กลุกยื้อถังไว้ “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ !! เธอมันดื้อ ตื๊อไม่เลิก!! พี่แสนเค้าไล่แล้วก็ยังไม่ไป   ถ้าต้นไม้พวกนี้ตายหมด ดูซิจะมีข้ออ้างอะไรอยู่ต่ออีก !!”    “นี่เธออยากให้ฉันกลับไป ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ !”    “ถ้าไม่มีเธอสักคน ฉันกับลูกก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ พี่แสนเค้าคงยอมรับเราแม่ลูกไปตั้งนานแล้ว เพราะเธอ เพราะเธอคนเดียว !!!” ปุ๊กลุกเอาถังดันอันยาให้เซไป แล้วสาด ๆ ๆ น้ำยาใส่แปลงสตรอเบอรี่ไม่หยุด    “ไม่ หยุด หยุด หยุดนะ!!” อันยาร้องห้าม เข้าไปยื้อแย่งถังน้ำจากปุ๊กลุก แต่ไม่เป็นผล น้ำผสมยาฆ่าหญ้านองไปทั่วทั้งแปลงสตรอเบอรี่แล้ว    อันยาโกรธพุ่งเข้าหาปุ๊กลุกอย่างไม่ยอม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อนึกถึงเปรียบเทียบสิ่งที่  ปุ๊กลุกทำกับเธอ และตนเองทำกับแสน มันไม่ต่างกันเลย อันยาพร่ำกับตัวเอง ซึ่งเข้าใจความรู้สึกของแสนแล้ว และด่าว่าตัวเองเป็นคนเลว คนผิด ทำเอาปุ๊กลุกเหวอไปเลย    สิงห์รู้เรื่องจึงไปบอกฟองคำ สิน และหนานปิง แต่อันยาไม่สนใจเอาเรื่องปุ๊กลุก เพราะมัวแต่คิดที่จะกู้ชีพช่วยต้นสตรอเบอรี่เท่านั้น     “แค่..แค่หนูอยากจะให้นังอันยามันออกไป ทำไมทุกคนต้องเข้าข้างมันด้วย !” ปุ๊กลุกโวยวาย    “เธอเข้าใจผิดแล้ว อันยาเค้าไม่เอาเรื่องเธอ แต่ที่พวกเรามา เพราะไม่พอใจเรื่องที่เธอเอายาพิษเข้ามาในนี้” ฟองคำพูดอย่างโกรธ ๆ     “ยาพิษ? ยาฆ่าหญ้าเนี่ยนะ ใคร ๆ เค้าก็ใช้กัน แถวบ้านหนูซื้อกันทีเป็นคันรถ”            



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย