“เรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต้องอยู่ในจิตสำนึก ครูอยากเห็นลูกศิษย์ทุกคนมีจิตสำนึก ถ้าเห็นเศษขยะตกอยู่ก็ต้องหยิบเก็บขึ้นมาเหมือนอัตโนมัติ หากเด็ก ๆ มีจิตสำนึกได้เช่นนี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนของประเทศไทยหรือส่วนไหนของโลกก็จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยดูแลรักษาโลกใบนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นการที่จะปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องเหล่านี้ได้ ครูต้องสอนให้เด็กรู้จักคิด” ครูเจียมใจ รุ่งเรืองวงศ์ บอกเล่าถึงเป้าหมายของการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์ โดยใช้บทปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาและการทำโครงงาน ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ครูเจียมใจพัฒนาขึ้นมาเป็นหลักสูตรท้องถิ่นที่จะช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันครูเจียมใจ ปฏิบัติหน้าที่สอนอยู่ที่โรงเรียนบ้านโนนสำราญ-ยางเรียน อ.เซกา จ.บึงกาฬ และเป็นครูผู้ได้รับทุนครูสอนดีของจังหวัดบึงกาฬ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการสอนให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์นั้น ครูเจียมใจ จะฝึกให้นักเรียนรู้จักคิดแก้ปัญหาผ่านการทำโครงงาน โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวคือการดูแลสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียนและชุมชน เด็กนักเรียนจึงต้องคิดทำโครงการที่เน้นอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดกระบวนการเรียนรู้เป็น 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1. สำรวจสภาพปัญหา 2. การให้ความรู้ฐาน ด้วยการสืบค้นความรู้จากอินเทอร์เน็ต ชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น 3. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เรียนกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนเพื่อเชื่อมโยงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 4. การเรียนรู้สถานการณ์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต เพื่อเชื่อมโยงสถานการณ์และมองหาทางรอด 5. วางแผนตามทางเลือกที่กำหนด โดยใช้การวางแผน-ลงมือปฏิบัติ-ตรวจสอบงาน และปรับปรุงให้ดีขึ้น หรือระบบ PDCA (Plan-Do-Check-Act) มาเป็นเครื่องมือ 6. ลงมือปฏิบัติตามแผนงาน โดยดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม และ 7. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เผยแพร่สู่สาธารณชน จากกระบวนการเรียนรู้ที่กำหนดจึงเป็นที่มาของโครงงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายจากการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมตัวน้อย ๆ อาทิ โครงการปลูกหญ้าแฝกเพื่อแก้ปัญหาตลิ่งพังทลายในห้วยบังบาตร ซึ่งเป็นต้นน้ำที่จะไหลไปสู่แม่น้ำโขง หรือโครงการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางมากขึ้น เป็นต้น “กระบวนการนี้ครูจะไม่วางกรอบอะไรไว้ให้เลย แต่จะให้เด็กได้คิดเอง ทำเอง เมื่อเด็ก ๆ เกิดการเรียนรู้ตั้งแต่ต้นเหตุของปัญหา และคิดหาวิธีแก้ปัญหาได้เอง เขาก็จะเกิดจิตสำนึกรักท้องถิ่นและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติที่บ้านของเขามีอยู่ ซึ่งจากการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบนี้มาสองปี ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของนักเรียนได้อย่างชัดเจน โดยเด็กมีพัฒนาการในการคิดวิเคราะห์มากขึ้น กล้าพูด กล้าแสดงออก ซึ่งเด็กรุ่นแรกที่เรียนด้วยระบบนี้ แม้จบการศึกษาไปแล้ว ก็ยังวนเวียนกลับมาทำกิจกรรมกับรุ่นน้องอย่างสม่ำเสมอ เป็นเพราะเขารู้สึกรักและผูกพันกับท้องถิ่นอย่างมาก” ครูเจียมใจ ชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่น่าทึ่งจากการสอนให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์ได้เอง. พลพิบูล เพ็งแจ่ม
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ - เปิดทำเนียบครูดีครูเด่น