สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อรักสัมผัสหัวใจ2 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2556  (อ่าน 76 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: สื่อรักสัมผัสหัวใจ2 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2556

10/พ.ย./13 หัวข้อไอดี: 16030196 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16030196

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 14/พ.ย./22


              เด็กสงบลง จำยอม ขณะที่ด้านหน้าประตู พวกนักเลงควักปืนออกมายิงใส่ กุมาริกาช่วยทำเสียงไซเรน พวกนักเลงผงะ     กุมาริกาเสกโทรโข่ง ทำจากกระดาษม้วน แล้วดัดเสียงผู้ชาย ผ่านโทรโข่งกระดาษ “นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเราล้อมไว้หมดแล้ว ยอมมอบตัวซะดีกว่า”    “ตำรวจ ตำรวจมาล้อมแล้ว” พวกนักเลงตกใจ แยกย้ายกันหาทางหนีไป     อรวีเสียใจมากเมื่อเห็นอติเทพควงปาริฉัตรมาบ้านในฐานะคู่หมั้น ทนายสมชายขู่ให้อติเทพรับผิดชอบแต่งงานกับอรวี แต่อติเทพไม่สนใจ ไล่ทนายสมชายกับอรวีออกไปจากบ้าน ทนายสมชายแค้นมาก     ญาณินกับติณห์นั่งสมาธิ เห็นภาพเหตุการณ์ฆ่าตัวตายหมู่ที่ห้องประชุม ทั้งคู่ตกใจหลุดออกจากสมาธิพร้อมกัน พอเดินออกมาที่ห้องรับแขก เห็นข่าวในโทรทัศน์บอกจะมีการแถลงนโยบายของประธานบริหารบริษัทเอ็กเซเล้นท์ฟู้ดคนใหม่ ตอน 17.00 น.     ญาณินกับติณห์จำได้ว่าผู้บริหารคนใหม่คือคนที่เห็นในนิมิตว่าจะฆ่าตัวตายหมู่ ทั้งสองหันไปมองนาฬิกาเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลา 16.30 น. ทั้งคู่ตกใจมาก รีบออกไปที่บริษัทดังกล่าวทันที แต่เพราะความรีบร้อนทำให้ลืมเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย ยามกันไม่ให้ทั้งคู่ขึ้นไปห้องประชุม ญาณินตัดสินใจถอดจิตเข้าไปดูในห้องประชุม     ผู้เข้าประชุมมีแก้วน้ำสีดำในมือ ทุกคนอยู่ในลักษณะโดนสะกดจิตหมู่ จ้องไปในจอตรงหน้า ดวงตาเป็นสีดำ ในจอเป็นภาพอีกาดำบินวนเป็นก้นหอย เสียงเพลงประกอบหลอน ๆ ทุกคนเตรียมยกแก้วขึ้นดื่ม ญาณินพยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ ญาณินเพ่งพลังไปที่จอ หน้าจอดับลง แต่ทุกคนยังยกแก้วขึ้นช้า ๆ เตรียมจะดื่ม     ติณห์วิ่งเข้ามาพอดี ญาณินบอกให้ติณห์หาทางปลุกทุกคนให้ตื่น ติณห์วิ่งไปที่แผงคอนโทรลเปิดเพลงร็อกเสียงดัง พวกผู้เข้าประชุมสะดุ้งโหยง มีอาการตื่นจากหลับ จิตญาณินแวบหายไป ติณห์รีบถอย แล้ววิ่งออกไป สมคิดโมโหมากเมื่อรู้ว่างานไม่สำเร็จ แถมคนที่บุกมาช่วยยังเป็นติณห์กับญาณินอีกต่างหาก     อยู่ ๆ ก็มีคนส่งคลิปมาให้ผู้การ เป็นคลิปภาพจากวงจรปิดที่เห็นว่าอติเทพเป็นคนเอางูมาปล่อยในเรือนกล้วยไม้ ผู้การรีบเอาคลิปไปให้ณัฐเดชกับวรวรรธดู     ปาริฉัตรเพิ่งรู้ว่ามีคดีฆาตกรรม หลังจากได้ยินคำขู่ของทนายสมชายกับอรวี ปาริฉัตรเตรียมหาทางชิ่งหนีจากอติเทพ แต่ตำรวจบุกไปจับตัวอติเทพกับปาริฉัตรไปสอบปากคำที่โรงพัก ในข้อหาฆาตกรรมคุณพิมพ์พิลาสและข้อหาปลอมแปลงเอกสารเสียก่อน     วรวรรธกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติในคลิปที่ถูกส่งมาให้ผู้การ อย่างแรกคือแสงกับเงาที่ตัวอติเทพเป็นเงาเข้มจากแสงอาทิตย์ตอนกลางวัน ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตอนกลางคืน และพอซูมภาพเข้าไปใกล้ ๆ ก็พบว่าในเรือนกล้วยไม้ไม่ได้มีแค่อติเทพกับพิมพ์พิลาส แต่ยังมีเงาสะท้อนของทนายสมชายในกระจกด้วย    จุนจีอุ้มกรรัมภาเข้าไปคุยกันในเรือนกล้วยไม้     “สมมุติว่า..ถ้าแฟนคลับสาวสวย..ได้อยู่กับปาร์คจุนจีตามลำพัง แฟนคลับสาวสวยอยากจะทำอะไร”    กรรัมภากัดหมับเข้าที่หูของจุนจี “นี่แหละที่ฉันฝันอยากจะทำ ถ้าได้อยู่กับปาร์คจุนจี ฉันจะกัดให้หายหมั่นเขี้ยวในความขี้เก๊กของคุณ เย้! ในที่สุด ฉันก็ได้ทำอย่างที่ฝันแล้ว เย้ ๆ”    กรรัมภาวิ่งหนีไปในเรือนกล้วยไม้ จุนจีวิ่งไล่จับ กรรัมภาวิ่งหนี มือก็ปัดป่ายกระถางกล้วยไม้ที่แขวนอยู่เหนือหัว และแล้วมือกรรัมภาก็ไปเกี่ยวเอากับลวดเล็กที่มัดต้นกล้วยไม้ติดไว้กับกระถาง ทำให้ถุงมือบางขาด กรรัมภาถอดถุงมือออก มือกรรัมภาไปสัมผัสถูกพื้นเรือนกล้วยไม้ ภาพเหตุการณ์ตอนพิมพ์พิลาสเสียชีวิตผุดเข้ามาในหัว     ที่แท้อรวีเป็นคนที่เอางูเข้ามาปล่อยในเรือนกล้วยไม้ พอพิมพ์พิลาสโดนงูกัด ทนายสมชายก็ตามมาช่วยจับงูออกไป ส่วนอรวีก็ยืนมองดูพิมพ์พิลาสขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา กรรัมภาชวนจุนจีไปหาณัฐเดช แต่อรวีกลับเข้าไปขวางไว้เสียก่อน     “ทุกอย่างกำลังจบอยู่แล้ว พวกคุณมารื้อฟื้นมันอีกทำไม”    อรวีจะฆ่าทั้งสองคนปิดปาก จุนจีใช้วิชาเทควันโดที่เรียนมา พากรรัมภาวิ่งหนีออกไปจากเรือนกล้วยไม้ได้ ทนายสมชายที่ยืนรออยู่ด้านนอก ยิงปืนเข้าใส่ กระสุนเฉี่ยวโดนไหล่กรรัมภาเลือดออก ทนายสมชายจะยิงซ้ำ จุนจีกอบกองทรายใกล้มือ เขวี้ยงไปใส่หน้าทนายสมชาย ทำให้ดินฟุ้งเข้าตา    ทนายสมชายเสียจังหวะ จุนจีพากรรัมภาวิ่งหนีไปเจอลีจองกุ๊กที่หน้าบ้าน ลีจองกุ๊กให้ปืนจุนจีไว้ป้องกันตัว ก่อนวิ่งหนีไปอีกทาง ล่อให้ทนายสมชายกับอรวีตามไป แต่ไม่มีใครหลงกล     ทนายสมชายกับจุนจีดวลปืนกัน จุนจีกลัวจะไม่รอด ให้กรรัมภารีบหนีไปก่อน อรวีตามไปเจอกรรัมภา กุมาริกาปรากฏตัวให้อรวีเห็น ไม่ยอมให้อรวีฆ่าใครอีก อรวีตกใจมาก     วิญญาณพิมพ์พิลาสเข้าสิงลีจองกุ๊ก ตามไปช่วยจุนจี แต่ทนายสมชายเหมือนเตรียมตัวไว้พร้อมแล้วว่าอาจจะเจอกับอะไร ควักสร้อยพระออกมาสวมไปที่คอลีจองกุ๊กทันที วิญญาณพิมพ์พิลาสกระเด้งหลุดจากร่างลีจองกุ๊กลงไปนั่งจับคอที่แสบร้อนจนดำไหม้ควันกรุ่นอยู่ที่พื้นด้านหลังลีจองกุ๊ก ขณะที่ร่างลีจองกุ๊กร่วงลงไปนอนสลบกับพื้น    “หึ ๆ ๆ ๆ ต่อให้เป็นผีหรือเทวดา วันนี้ก็ไม่มีใครช่วยแกได้หรอกไอ้จุนจี”    “อย่าสมชาย...อย่าทำหลานฉัน” พิมพ์พิลาสได้แต่ร้องห้าม ทำอะไรไม่ได้ เพราะสร้อยพระทำให้วิญญาณหมดพลัง    “เพราะมึงตัวเดียวไอ้จุนจี ไม่ยอมเซ็นยอมรับพินัยกรรมซะที ไม่งั้นกูได้มรดกเสวยสุขไปนานแล้ว เพราะมึงทำให้ไอ้อติเทพมันหักหลัง ทอดทิ้งกูกับลูกสาวเพราะมึง...เพราะมึงทำให้กูไม่ได้อะไรเลย มึงต้องชดใช้ด้วยชีวิตซูเปอร์สตาร์ของมึง”    “อย่าสมชาย  ฉันจะให้สมบัติที่แกต้องการ ฉันยังมีสมบัติซ่อนอยู่ในบ้านนี้อีก ฉันจะยกให้แกทั้งหมด เพื่อแลกกับชีวิตหลานชายฉัน”    กุมาริกากับกรรัมภาช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้อรวีวางปืนแล้วไปสารภาพความจริงกับตำรวจ โทษหนักจะได้เป็นเบา แต่อรวีเลือกที่จะลั่นไกยิงกรรัมภาหมดแม็ก กุมาริการับกระสุนทั้งหมดไว้ได้     “พี่เคยสงสารตัวเองที่มีกรรมทำให้ไม่ได้เกิด แต่ตอนนี้พี่สงสารคนที่ได้โอกาสเกิดมาแล้วยังสร้างกรรมเพิ่มอีก”    อรวีสำนึกผิดปล่อยปืนร่วงลงพื้นอย่างหมดแรง ณัฐเดช วรวรรธ เนตรสิตางศุ์ วิ่งเข้ามาเห็นกรรัมภาถูกยิงก็พากันตกใจ กรรัมภาเป็นห่วงจุนจีมากกว่า กุมาริกาอาสาอยู่เป็นเพื่อนอรวี ขณะที่ทั้งสี่คนตามไปช่วยจุนจี     พิมพ์พิลาสพาทนายสมชายไปที่ห้องเก็บสมบัติ มีตู้เซฟซ่อนอยู่หลังตู้ใบหนึ่ง ภายในตู้เซฟมีทองแท่งและเพชรมากมาย ทนายสมชายใช้ปืนขู่บังคับให้จุนจีเก็บสมบัติใส่กระเป๋าให้ พอเสร็จแล้วแทนที่จะปล่อยจุนจีไป ทนายสมชายกลับคิดจะฆ่าปิดปาก พิมพ์พิลาสใช้พลังทำให้กระดาษเอกสารในห้องปลิวใส่สมชาย ทนายสมชายชะงัก จุนจีพุ่งเข้าตะครุบ จนทนายสมชายล้มคว่ำไป    “หนีไปจักร”    จุนจีวิ่งหนีไปที่ประตู ทนายสมชายหันมาเล็งปืนยิง ณัฐเดชกับวรวรรธถีบประตูเข้ามาพอดี ทนายสมชายปล่อยปืนร่วง ณัฐเดชกับวรวรรธรีบเข้าไปจับกุม กรรัมภาวิ่งร้องไห้เข้ามากอดจุนจี ทั้งคู่ดีใจที่รอดตายมาได้เจอกันอีกครั้ง พิมพ์พิลาสดีใจที่เห็นจุนจีปลอดภัย    หลังความจริงทั้งหมดเปิดเผย จุนจีได้รับเงินมรดกทั้งหมดของพิมพ์พิลาส ปาริฉัตรพยายามจะสร้างภาพกลับมาจิ้นกับจุนจีอีกครั้ง อติเทพตามมาประกาศตัวเป็นคู่หมั้น จุนจีได้ทีรีบชิ่งหนีพวกนักข่าวที่หันไปรุมสัมภาษณ์อติเทพแทน ปาริฉัตรจะตามจุนจีไป อติเทพตามไปขวาง ปาริฉัตรประกาศตัดความสัมพันธ์ต่อหน้านักข่าว อติเทพตกอับ หมดเงิน ไม่มีใคร     “ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่คงจะสงสารเธอ พาเธอกลับบ้าน และเลี้ยงดูปูเสื่อเธออย่างดีเหมือนกับที่พี่เคยพาเธอขึ้นมาจากโคลนตม โชคดีที่พี่ตายไปแล้ว พี่ถึงทำโง่ ๆ อย่างนั้นไม่ได้อีก ลาก่อนอติเทพ ขอให้เธอกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ชาติหน้ามีจริง เราอย่าได้พบกันอีกเลย หมดเวรหมดกรรมต่อกันแค่ชาตินี้เถอะนะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ลาก่อน”    พิมพ์พิลาสมองด้วยน้ำตา ก่อนวิญญาณจะจางหายไป ทิ้งให้อติเทพนั่งคอตกร้องไห้อยู่ตามลำพัง    พิมพ์พิลาสกับจุนจีได้มีโอกาสปรับความเข้าใจกัน โดยมีกรรัมภาคอยเป็นสื่อกลาง    “จักร....ย่าอยากจะขอโทษหลานสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา งูพิษน่ะไม่ใช่เงินทองหรอกลูก...งูพิษ...มันอยู่ในใจย่าเองตังหาก ย่าใจร้ายอย่างที่หลานเคยชี้หน้าว่าย่านั่นแหละ ใจร้าย เพราะใจมันเป็นงูพิษ มันขบกัดคนรอบๆ ทำให้ย่าไล่หลานกับพ่อแม่ออกจากบ้าน ไปตกระกำลำบาก แล้วมันก็กัดทุกคนจนเขาเกลียดย่ากันหมด แล้วสุดท้าย มันก็กัดตัวของมันเอง งูพิษในใจ มันกัดจนย่าตายไปแล้วทั้งเป็น...ก่อนที่จะตายจริง ๆ ซะอีก ทุกวันทุกคืน...ถึงจะมีชีวิตที่มีเงินมากมายนับไม่หมด...อาศัยในบ้านหรูหรา มีคนรับใช้รายรอบ...แต่มันเหมือนคนตายแล้ว มันขมเหมือนอมพิษไว้เต็มตัว...มันเยือกเย็น มันอ้างว้าง เหมือนอยู่ในสุสาน...ล้อมรอบไปด้วยคนที่เกลียดเรา ย่าชดใช้กรรมที่ตัวเองก่อขึ้นทั้งตอนยังมีชีวิตอยู่และตอนนี้...หากหลานมีใจที่ดีงาม...มีใจที่ไม่ใช่งูพิษ แม้จะมีเงินมากมายหรือมีเงินนิด เดียว...มันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกลูก”    “ผมเข้าใจครับ”    “เงินนั้น แล้วแต่หลานก็แล้วกัน ว่าหลานจะทำยังไงกะมันแต่ย่าขออย่างเดียว... ยกโทษ ให้ย่า...อโหสิให้ย่า”    “ครับย่า ผมหายโกรธย่าแล้วผมกลับสงสารย่ามากกว่า...ผมให้อภัย...และอโหสิกรรม ทุกอย่างครับ... ขอให้วิญญาณของย่ามีความสุขนะครับ”    “ขอบใจมากจักร ขอบใจ....ย่าก็ขออวยพรให้หลานมีความสุขความเจริญมีแต่ความสงบ เย็นในจิตใจนะหลานรัก ลาก่อน” แล้ววิญญาณของพิมพ์พิลาสก็ค่อย ๆ จางหายไป    อยู่ดี ๆ โบตั๋นก็กรีดร้องโหยหวนดังลั่นบ้าน อาม่าตกใจเป็นลมล้มพับไปทันที สุคนธรสกับไตรรัตน์เข้าไปคุยกับโบตั๋นในห้อง ที่แท้โบตั๋นฝันว่าที่แขนมีเลือดออก พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าข้อมือทั้ง 2 ข้างคล้ายโดนกรีดเป็นทางยาว มีเลือดออกจริง ๆ ไตรรัตน์ตกใจมาก สุคนธรสรีบอธิบายให้ฟัง     “น้องนายถึงเวลาที่เค้าต้องไปเกิดแล้ว”    “ไปเกิดเหรอ แล้วทำไมเค้าถึงมีอาการแบบนี้”    “ก็เพราะเรื่องกล่องของขวัญที่ยังหาไม่เจอนั่นแหละทำให้โบตั๋นติดห่วง ไปเกิดไม่ได้ทั้ง ๆที่ถึงเวลาแล้ว วิญญาณเลยทุกข์ทรมาน เกิดภาพนึกคิดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเองถ้าขืนทิ้งไว้ต่อไป วิญญาณก็อาจวิปลาส คลุ้มคลั่งจนกลายเป็นผีดุร้ายได้”    โบตั๋นมองไปที่ขาตัวเองเห็นขามีเลือดออกก็ตกใจมาก “ขาหนูก็เลือดออกด้วย พี่ไตรช่วยหนูที”    “โธ่ โบตั๋น พี่สัญญาจะช่วยน้อง รีบหากล่องของขวัญให้เจอ”    “เมื่อไหร่ล่ะคะ เมื่อไหร่จะหาพบ หนูเหนื่อยแล้ว หนูอยากหลับ”    “อยากหลับก็หลับซี...นะ...เดี๋ยวฉันจะอยู่เป็นเพื่อน เล่านิทานอาละดินกับตะเกียงวิเศษให้ฟัง” กุมาริกาเสกตะเกียงมาอยู่ในมือ โบตั๋นหลุดจากจิตหมกมุ่นเรื่องกล่องของขวัญ ตอนนั้นเองที่อาอี๊กระหืดกระหอบวิ่งมาตามไตรรัตน์กับสุคนธรสให้ไปดูอาการ อาม่า    ไตรรัตน์กับสุคนธรสวิ่งตามอาอี๊ไปที่ห้องรับแขก เห็นอาม่ากำลังหลับตาเพ้อเหมือนคนที่กำลังตกอยู่ในความฝัน ไตรรัตน์พยายามจะปลุกอาม่าตื่น แต่สุคนธรสเห็นอาม่าละเมอถึงอากงเลยบอกให้ไตรรันต์หยุดปลุก แล้วตั้งใจฟังที่อาม่าพูดแทน    “ลื้อเหรออากง! ลื้อมาหาอั๊วทำไมอีก ไหนเค้าว่าลื้อไปเกิดแล้ว ห่ะ...ของ...ลื้อจะให้ของอะไรเดี๋ยวอากง ลื้ออย่าเพิ่งไป อากง” อาม่าร้องลั่นพร้อมสะดุ้งตื่นขึ้น    อาม่าเล่าให้ทุกคนฟังว่าอากงมาเข้าฝัน บอกมีของจะให้ ให้ทุกคนรีบเข้าไปดูในห้องอากง ที่แท้ของที่อากงพูดถึงก็คือกล่องของขวัญของโบตั๋นนั่นเอง     “รีบไปบอกพ่อแม่นายเตรียมจัดวันเกิดให้นาย โบตั๋นจะได้ให้ของขวัญนายตามความตั้งใจเดิมก่อนตาย”     “นี่แปลว่า...โบตั๋นจะไปเกิดแล้วเหรอ บ้านนี้จะไม่มีวิญญาณโบตั๋นอีกแล้วซิ”    สุคนธรสพยักหน้า ไตรรัตน์นิ่งอึ้งไปอดรู้สึกใจหายไม่ได้ ก่อนหันเดินซึม ๆ ออกไป     สุคนธรสมองตามหลังไตรรัตน์ไป “ไม่ใช่แค่โบตั๋นที่จะไปจากบ้านหลังนี้ ฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน”    ผู้การขอให้พวกห้าสาวช่วยทำคดีนักธุรกิจถูกสะกดจิตหมู่ให้ฆ่าตัวตาย ติณห์กับญาณินเล่าเรื่องที่เห็นในนิมิตให้ทุกคนฟัง กรรณาลองวาดรูปลงบนกระดาษให้ญาณินดู     “แบบนี้หรือเปล่าเจ๊”    “มันไม่ใช่เส้นเรียบ ๆ แบบนี้ มันเหมือนนก ที่มีปีก สีดำ บินวน ๆ เข้าหาศูนย์กลาง”    “นก สีดำ ก็อีกาสิครับ”    ทุกคนหันมองหน้ากัน    “อีกา...คุ้น ๆ นะ”    “หมอสมคิด... เบญจา”    หลังจากโบตั๋นไปเกิดแล้ว สุคนธรสรีบเก็บข้าวของเตรียมย้ายออกไปจากบ้านไตรรัตน์     “ฉันทำตามสัญญา พอส่งโบตั๋นไปเกิดแล้ว ฉันก็จะไปจากนาย”    ไตรรัตน์เปิดประตูอ้าให้ “เชิญ…”    สุคนธรสลากกระเป๋าจะออกไป แต่ต้องชะงัก เมื่อไตรรัตน์เอ่ยขึ้น    “ไปเถอะ...แล้วผมจะรอคุณอยู่ที่นี่! ถ้าผมตาย วิญญาณผมก็จะไม่ไปเกิด ผมจะรอ....รออย่างมีห่วง....รอให้แม่หมออย่างคุณกลับมาหากลับมาปลดปล่อยวิญญาณผีที่รักเดียวใจเดียวแต่ไม่สมหวังในรัก”    คำพูดของไตรรัตน์ทำให้สุคนธรสวางกระเป๋า “ทำไมต้องพูดว่าจะตายด้วย”    “เพราะ...คุณไม่สนคน คุณสนแต่ผี ถ้าผมเป็นคน คุณคงไม่เห็นใจ แต่ถ้าผมตาย แล้วดุ ๆ หน่อย เฮี้ยน ๆ เล็กน้อย แบบโบตั๋น ก็ยังอาจจะพอให้คุณหันมามองบ้าง เราอยู่กันมาตั้งนาน คุณน่าจะรักผมบ้าง แต่คุณก็ไม่รัก นั่นเพราะผมยังเป็นคนเป็น ๆ อยู่ ผมเลยคิดว่า...ถ้าตาย ๆ ซะ อะไรอาจดีขึ้น คุณอยากให้ผมเป็นอะไรตายล่ะ...บอกมาเลย ผมจัดให้”    “งั้นไปตกส้วมตายซะไป”    “ได้! ผมจะกินยาถ่ายตาย เวลาคนมาถาม ว่าคุณสุคนธรสคะ คุณไตรรัตน์เป็นอะไรตายคะ...คุณก็ต้องคอยตอบว่า...อ๋อ คุณไตรรัตน์ขี้แตกตายค่ะ คุณจะไม่อายก็ตามใจ”    สุคนธรสหลุดขำ “ทุเรศ คนบ้า”    “เป็นผีสิงส้วมก็ดีเหมือนกัน ทุกครั้ง ที่ใครมาอึ เค้าจะได้ยินเสียงคร่ำครวญจากคอห่าน ถ้าเป็นผู้ชาย ผมจะหลอกให้หัวโกร๋น แต่ถ้าเป็นผู้หญิง ผมจะเงียบ ๆ แล้วนั่งดู”    “ไม่นะ ห้าม ใจคอนายจะลามกตั้งแต่เป็นคนยันเป็นผีเลยเหรอ”    “ผมจะเป็นผีลามกสุด ๆ เลยล่ะ”       “งั้นชั้นจะมาปราบนายแบบโหด ๆ”    ทั้งสองวิ่งไล่ตีกันไปมา แต่ออกแนวสนุก หัวเราะ เล่นกัน ร่าเริง    ติณห์ ญาณิน พงอินทร์ กรรณา วรวรรธ ณัฐเดช ไปสำรวจตึกออฟฟิศที่เกิดเหตุ และทันทีที่ทุกคนไปถึงก็มีภูตอีกาตัวดำร่างเป็นคนมีปีกข้างหลังโฉบผ่านตัดหน้าญาณินไป ญาณินหยุดกึก    “ทุกคนหยุด มีพลังงานบางอย่างเคลื่อนผ่านหน้าฉันไป”    กรรณาค่อย ๆ ถอดหูฟังที่ครอบหูออก “ฉันได้ยินเสียงกาอยู่ในนี้ จริงอย่างที่เจ๊คาด มันยังไม่วางมือแน่ มันทำไม่สำเร็จในวันนั้น มันก็คงมาวนเวียน รอเวลา....”    “แปลว่า มันจะหาทางทำซ้ำอีก”    “ถ้าคนในบริษัทนี้ตายหมด...ใครจะได้ประโยชน์”    “ใคร...ที่จะอยากให้คนบริษัทนี้ตายยกทีมแบบนี้”    “น่าจะเป็นบริษัทคู่แข่ง”    วรวรรธตั้งสมมุติฐาน “สมมุติว่า...มีผู้วิเศษบางคน...รับจ้าง...ฆ่าคนตามใบสั่งล่ะ”    “สมคิดเคยรับทำสารพัดมาแล้ว กับการรับจ้างฆ่าคน ทำไมจะทำไม่ได้”    “แล้วเบญจาที่มีอาคมแก่กล้า...อย่างที่เรารู้มาแล้ว...เขาต้องฆ่าคนเป็นเบือได้ โดยไม่มีความเมตตาเลย”    คราวนี้เสียงกาดังสนั่นกึกก้อง กรรณาได้ยินคนเดียว พลังพึ่บ ๆๆ โฉบผ่านหัว จนเสื้อผ้า ผมทุกคนปลิว    “มันโจมตีเราแล้ว”    พลังนั้น โฉบสูงขึ้นไป ทุกคนรีบขึ้นลิฟต์ไปยังห้องประชุมชั้นบน เพื่อหาหลักฐานมาสนับสนุนข้อสันนิษฐาน แต่แล้วจู่ ๆ ไฟทางเดินก็กะพริบ ๆ ติด ๆ ดับ ๆ ทุกคนมีอาการตกใจ ติณห์กับญาณิน จับมือกันแน่น    กรรณายก 2 มือขึ้นป้องหู ได้ยินเสียงกาดังก้อง “วิญญาณอีกา...มันอยู่แถวนี้”    “มันพยายามขวางไม่ให้เราเข้าไป เร็วยัยกรรณยัยเนตรท่องคาถาขับผี”    ว่าแล้วญาณินกับกรรณาก็พนมมือหลับตาท่องคาถา หนุ่ม ๆ รีบยกมือพนมตั้งจิตตาม ภูตอีกาถูกอาคมร้อนรนจนหายตัวไป....ไฟฟ้าก็กลับมาทำงานปกติเหมือนเดิม ญาณินกับกรรณาหยุดท่องคาถาลืมตาขึ้นมามอง สีหน้าดีใจ    “มันไปแล้ว”            



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สื่อรักสัมผัสหัวใจ2 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2556

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย