สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: การปลูกมะม่วงลูกผสมไต้หวันในประเทศไทย  (อ่าน 73 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: การปลูกมะม่วงลูกผสมไต้หวันในประเทศไทย

13/พ.ย./13 หัวข้อไอดี: 16031077 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16031077

ออฟไลน์ นๅยด้ามขวาน

  • ออฟไลน์
  • 49115
    30336
    64972



  • Administrator
  • *****
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 17/07/2009
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • กระทู้ : 49115
  • Like Post : 64972
  • Peny : 30336
  • 16

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 22/พ.ค./24


              ในปัจจุบันนี้พื้นที่ปลูกมะม่วงเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้เกือบ 100% เนื่องจากเป็นมะม่วงที่มีการส่งออกมากที่สุด เริ่มจากส่งออกไปญี่ปุ่นประเทศเดียว ต่อมามีการขยายการส่งออกไปยังอีกหลายประเทศ อาทิ นิวซีแลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน และบางประเทศในยุโรป สำหรับตลาดในประเทศไทยพฤติกรรมการบริโภคมะม่วงในตลาดเมืองใหญ่ ๆ ที่มีกำลังซื้อสูงมะม่วงต่างประเทศที่มีขนาดผลใหญ่ รสชาติอร่อย ไม่มีกลิ่นเหม็นขี้ไต้ ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นลำดับและขายได้ราคาดี ดังนั้นมะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศแปลกและหายากจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกมะม่วงในอนาคต   ในแปลงปลูกมะม่วงของศูนย์ปรับปรุงพันธุ์ไม้ผลเมืองไทนัน เกาะไต้หวัน มีการพัฒนาสายพันธุ์มะม่วงให้สีผิวมีสีแดงมากขึ้น มีพันธุ์มะม่วงลูกผสมพันธุ์ใหม่หลายสายพันธุ์ มะม่วงลูกผสมพันธุ์ใหม่บางสายพันธุ์ของศูนย์ฯ แห่งนี้ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ให้ผลมีสีแดงออกม่วงตั้งแต่ระยะผลอ่อน ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร โทร. 08-1886-7398, 0-5661-3021 ได้ยอดมะม่วงพันธุ์ลูกผสมพันธุ์ใหม่จากแปลงทดลองของศูนย์ฯ แห่งนี้มาหลายสายพันธุ์และเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยได้นำยอดพันธุ์มะม่วงเหล่านั้นมาเสียบฝากไว้กับต้นมะม่วง R2E2 เวลาผ่านไป 3 ปี มะม่วงลูกผสมของไต้หวันหลายสายพันธุ์ได้เจริญเติบโตและพร้อมที่จะให้ผลผลิต โดยหนึ่งในนั้นทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร ได้ตั้งชื่อ มะม่วงลูกผสมว่า T1 (T ย่อมาจาก Taiwan) ฤดูกาลที่ผ่านมามะม่วง T1 ได้มีการออกดอกและติดผล สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนว่าในระยะที่ผลมะม่วง T1 มีการติดผลเท่ากับนิ้วก้อย ผิวที่ผลจะเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวมาเป็นสีม่วงแดง โดยเมื่อผลมีขนาดใหญ่ขึ้นสีของผิวจะออกสีม่วงเข้มขึ้น และเมื่อผลแก่จะมีสีม่วงเข้มทั้งผล มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2 กิโลกรัม จัดเป็นมะม่วงกินสุกที่รสชาติอร่อย เนื้อมีสีเหลืองละเอียดเนียน ไม่มีเสี้ยน มะม่วงพันธุ์ T1 (TAIWAN เบอร์ 1) เมื่อผลแก่และนำมาวางขายด้วยผิวผลที่มีสีม่วงเข้มจะดึงดูดผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะเป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีชาวสวนมะม่วงไทยขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นในอนาคต ปัจจุบันเริ่มมีเกษตรกรได้ขยายพื้นที่ปลูกมะม่วง T1 มากขึ้น ด้วยมั่นใจว่าปลูกและสามารถบังคับให้ออกนอกฤดูในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี และเป็น อีกทางเลือกหนึ่งของการบริโภคมะม่วงในประเทศไทย   นอกจากมะม่วง T1 แล้ว ทางชมรมฯ ยังได้ยอดมะม่วงลูกผสมพันธุ์ T2 และ T3 มาขยายพันธุ์ด้วย คาดว่าในฤดูกาลผลิตปี 2556-2557 จะเห็นผลผลิตและเผยแพร่ให้เกษตรกรในโอกาสต่อไป รวมทั้งมะม่วงพันธุ์งาช้างแดงที่มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 2-3 กิโลกรัม จัดเป็นมะม่วงไต้หวันที่มีขนาดผลใหญ่ที่สุดในขณะนี้.            



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
การปลูกมะม่วงลูกผสมไต้หวันในประเทศไทย

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย