เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น .8 และ พ.ต.อ.พรชัย ชะลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ ได้ผู้ต้องหารวม 8 คน ประกอบด้วย นายเกียรติศักดิ์ แสงจินดา อายุ 33 ปี หัวหน้าแก๊ง น.ส.เกศรินทร์ แซ่เอ็ง อายุ 19 ปี น.ส.ชาริดา ดีน้อย อายุ 25 ปี น.ส.อริสา ผุดผ่อง อายุ 23 ปี น.ส.สุกานดา พ่วงเพิ่มทรัพย์ อายุ 26 ปี น.ส.นุชนารถ นุกิจ อายุ 34 ปี นายบัญชา ดุนโคกสูง อายุ 36 ปี และ นายรัฐพล ศรีเงิน อายุ 34 ปี ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง และสมุดบันทึกรายชื่อ-นามสกุล ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์มือถือของเหยื่อ จำนวน 9 เล่ม โดยจับกุมทั้งหมดได้ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 52 ถนนพระราม 2 ซอย 1 แขวงและเขตจอมทอง พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายเกียรติศักดิ์ ได้เปิดบริษัท แม็กซีมั่ม คอลเลกชั่น จำกัด เพื่อติดตามเร่งรัดหนี้สิน ข่มขู่และทวงเงินเหยื่อ โดย นายเกียรติศักดิ์ แอบอ้างตัวเป็นทนายความ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเป็นลูกจ้างบริษัท แบ่งเป็นแผนกไฟแนนซ์รถยนต์ และแผนกบัตรเครดิต โดยผู้ต้องหาจะนำข้อมูลของเหยื่อมีที่หนี้สินจดใส่สมุดบัญชีเอาไว้เกือบ 1,000 ราย จากนั้นจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่ออ้างตัวเป็นเจ้าพนักงานกรมบังคับคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทนายความ พูดจาข่มขู่ให้รีบไปชำระหนี้ หากไม่ชำระจะดำเนินการออกหมายจับนำตัวไปส่งฟ้องศาลดำเนินคดี และยึดทรัพย์ เป็นเหตุให้ลูกหนี้เกิดความกลัวไปชำระเงิน ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความที่ สน.บางมด จำนวน 10 คน และเชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อหลาย 100 ราย ส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ด้าน นางทัศนี ทัดไช อายุ 39 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางมด กล่าวว่า ทางแก๊งคอลเซนเตอร์ได้โทรศัพท์มาหาผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมฝากเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับเอาไว้ โดยแจ้งว่าตนถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากตนเคยซื้อโทรศัพท์มือถือแบบเงินผ่อนให้เพื่อนในราคา 12,000 บาท เมื่อ 7 ปีที่แล้วและไม่ทราบว่าเพื่อนผ่อนครบหรือไม่ หลังจากตนโทรศัพท์กลับไปหา ก็ถูกข่มขู่ให้ชำระหนี้โดยไม่รู้ว่าแก๊งดังกล่าวรู้หมาย เลขบัตรประชาชน และรายละเอียดของโทรศัพท์มือถือที่เคยซื้อไปได้อย่างไร ตนกลัวว่าจะตกงานและถูกดำเนินคดีจึงไปจ่ายเงินทันที ซึ่งทางแก๊งคอลเซนเตอร์แจ้งให้ไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อ โดยบอกว่าเมื่อไปถึงให้ส่งโทรศัพท์ให้พนักงานของร้าน ตนก็ไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อย่านบางมด จำนวน 12,636 บาท ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะถูกหลอก เพราะข้อมูลที่กลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกนั้นตรงทุกอย่าง จึงคิดว่าเป็นเรื่องจริง และจ่ายเงินตามที่แจ้งมา ด้าน พ.ต.ท.ศักดิ์เดช กล่าวว่า จากการสอบสวนสวนทราบว่า บริษัทของผู้ต้องหาจะซื้อข้อมูลลูกหนี้จากบริษัทบัตรเครดิตและบริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ ก่อนจะดำเนินการติดตามทวงหนี้โดยวิธีข่มขู่เหยื่อด้วยการตัวอ้างเป็นตำรวจ ทนายความ และเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี ทำให้ลูกหนี้ตกใจกลัว และหลงเชื่อรีบไปชำระเงินภายในวันเดียว โดยแก๊งทวงหนี้คอลเซนเตอร์จะได้ส่วนแบ่งจากการชำระหนี้ร้อยละ 25 โดยมีทั้งเหยื่อที่เป็นหนี้จริงและเหยื่อที่ถูกหลอก เพราะชำระหนี้ไปแล้ว บริษัทดังกล่าวทำมานาน 2 ปีแล้ว มี นายเกียรติศักดิ์ เป็นคนเปิดบริษัท และ น.ส.เกศรินทร์ มีหน้าที่เป็นฝ่ายบุคคลรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างรายวันให้ผู้ต้องหาที่เหลือ ส่วนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งความดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ที่ สน.บางมด.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบรวบยกแก๊งคอลเซนเตอร์ฮัลโหลขู่ทวงหนี้เหยื่อ
