เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยกับผลการตัดสินของศาลโลก กรณีเขาพระวิหาร” ระหว่างวันที่ 14 – 15 พ.ย. จากประชาชน 1,242 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 57.57 พึงพอใจในระดับปานกลาง รองลงมา ร้อยละ 23.27 พึงพอใจในระดับน้อย และร้อยละ 19.16 พึงพอใจในระดับมาก ขณะที่ในด้านการยอมรับของประชาชน หากไทยต้องเสียพื้นที่เล็ก ๆ (ไม่เกิน 1 ตร.กม.) บริเวณรอบ ๆ เขาพระวิหาร เช่น ทางขึ้นเขาพระวิหาร วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ตลาดและชุมชน พบว่าร้อยละ 56.76 ระบุว่าไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในอาณาบริเวณของไทย ขณะที่ร้อยละ 35.02 ระบุว่ายอมรับได้ เพราะเชื่อว่าเป็นของกัมพูชาอยู่แล้วและเป็นพื้นที่ที่ไม่มาก เมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับมติของศาลโลก ที่ให้ไทยและกัมพูชาร่วมกันดูแลอนุรักษ์เขาพระวิหารในฐานะที่เป็นมรดกโลก พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.42 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะจะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง ต้องการเห็นความสงบสุขและสัมพันธไมตรีที่ดีระหว่าง ไทย-กัมพูชา และน่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย และร้อยละ 15.70 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ อาจจมีปัญหาในการตกลงหรือการจัดสรรผลประโยชน์ร่วมกัน นายธวัชชัย ศุภดิษฐ์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผน และอาจารย์ประจำคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า การที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ความ พึงพอใจต่อคำตัดสินของศาลโลกในคดีปราสาทเขาพระวิหาร ในระดับปานกลาง เพราะผลการตัดสินของศาลโลกมีทั้งส่วนที่ประเทศไทยได้เปรียบจากคำตัดสิน คือ การที่ศาลไม่ได้ตัดสินตามคำขอเกี่ยวกับแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 ซึ่งเป็นผลดีกับแนวชายแดนทั้งหมดระหว่างไทยกับกัมพูชา รวมทั้งพื้นที่แนวชายฝั่งทะเล และพื้นที่ที่ทางกัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขา 4.6 ตารางกิโลเมตร ศาลไม่ได้ตัดสินว่าเป็นของกัมพูชา และให้ใช้การเจรจาใช้ประโยชน์ร่วมกันของเขาพระวิหาร ส่วนที่ไทยจะเสียประโยชน์ไปคือพื้นที่แนวติดเขาพระวิหารบริเวณชะง่อนผา ศาลโลกตัดสินว่าตกเป็นของกัมพูชาและประเทศไทยต้องถอนทหารบริเวณพื้นที่นี้ออก อย่างไรก็ตามการเสียพื้นที่แม้เพียงเล็กน้อย ส่วนบริเวณชะง่อนผาทางขึ้นเขาพระวิหารบริเวณด้านข้างและบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในส่วนนี้ว่าเสียพื้นที่บริเวณนี้เท่าไหร่กันแน่ และต้องเข้มแข็งและโปร่งใสในการเจรจาเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่มีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง เพราะมีคนไทยจำนวนมากไม่ให้ความไว้วางใจรัฐบาล ถ้าสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ก็จะตรงกับความต้องการของคนไทยส่วนใหญ่ แต่ถ้าทางกัมพูชาไม่ยอมตนขอแนะว่าให้ปิดทางขึ้นเขาพระวิหารในส่วนพื้นที่ของประเทศไทยทั้งหมดและไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นเขาพระวิหาร เป็นการตัดผลประโยชน์ในส่วนที่กัมพูชาจะได้รับเพราะนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อส่วนใหญ่จะข้ามมาจากฝั่งไทย และเห็นควรให้รัฐบาลสร้างปราสาทพระวิหารจำลองบริเวณภูมะเขือที่มีความยิ่งใหญ่กว่าปราสาทเดิมเพื่อเป็นการตอบโต้กัมพูชาที่พยายามนำผลการตัดสินของศาลโลกไปบิดเบือน ทั้งที่ยังไม่มีการเจรจากับฝ่ายไทยแม้แต่ประเด็นเดียว”
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบโพล ชี้คนไทยมึน สรุปไทยเสียพื้นที่รอบเขาพระวิหารเท่าไหร่กันแน่