ตอกย้ำนโยบายการสร้างสรรค์สังคมสุขภาพแข็งแรง รพ.ปิยะเวท ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด จัดโครงการ “86 ดวงตา 86 ดวงใจ เฉลิมพระเกียรติ” รับรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคต้อกระจกที่มีรายได้น้อยทุกสิทธิการรักษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษาในวันที่ 5 ธ.ค. 2556 โดย จิรวัฒน์ อยู่วิทยา ประธานกรรมการบริษัท รพ.ปิยะเวท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ 86 ดวงตา 86 ดวงใจ เฉลิมพระเกียรติ เป็นหนึ่งในโครงการที่สานต่อเจตนารมณ์ของคุณเฉลียว อยู่วิทยา (เสียชีวิตไปแล้ว) ที่ต้องการให้รพ.ปิยะเวทเป็นโรงพยาบาลที่ดี ช่วยเหลือสังคมและเป็นที่สามารถแบ่งเบาภาระของรัฐบาลได้ จึงได้คิดค้นโครงการดังกล่าวขึ้นมาร่วมกับบริษัท กระทิงแดง และสปสช. ที่จะรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและต้อกระจก โดยเน้นผู้ป่วยที่มีรายได้น้อยจำนวน 86 คน สาเหตุที่เลือกรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและต้อกระจก ประธานกรรมการบริษัท รพ.ปิยะเวท จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลว่า จากสถิติการเสียชีวิตของผู้ป่วยแต่ละปี พบว่าโรคหัวใจถือเป็นสาเหตุต้น ๆ โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการรักษามีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีทางเลือกในการรักษาไม่มาก โรงพยาบาลรัฐมีไม่พอต่ออัตราของผู้ป่วย ประกอบกับทางโรงพยาบาลมีศูนย์วิจัยด้านโรคหัวใจ มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและเครื่องมือเครื่องใช้ ส่วนโรคต้อกระจกพบว่าเป็นกันมากแม้ว่าเป็นโรคที่ไม่ได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต แต่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต สำหรับโครงการนี้รับเฉพาะผู้ป่วยมีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน และผู้ป่วยต้องได้รับการประเมินจากโครงการทั้งการประเมินรายได้ สิทธิการรักษาที่มีผลอยู่แล้ว และการประเมินโรคซึ่งสำคัญมาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีอาการที่ตรงกับโครงการ โดยเปิดกว้างให้ผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่โครงการรับผู้ป่วยเพียง 86 คนเท่านั้น ในอนาคตสามารถประเมินได้ ถ้ามีผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นก็อาจจะมีโครงการต่อยอด ส่วนระยะเวลาและขั้นตอนการสมัครเข้าโครงการ รศ.นพ.องค์การ เรืองรัตนอัมพร รองประธานบริหารและอายุรแพทย์โรคหัวใจ รพ.ปิยะเวท กล่าวว่า เนื่องจากเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ระยะเวลาจึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 2556– 4 ธ.ค. 2557 เป็นเวลา 1 ปี ผู้ที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจและต้อกระจกตา ต้องส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับประวัติการรักษาที่มีการรับรอง เมื่อผู้ป่วยเดินเข้ามาจะมีการคัดกรองว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซักประวัติ ตรวจร่างกาย และการสืบค้น มีบางคนได้ไปฉีดสีจากบางที่มาแล้ว แต่ไม่ว่าทาง รพ.ปิยะเวท จะมีการรักษาอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะต้องตรวจประเมินว่าจะให้มีการรักษาด้วยการขยายด้วยวิธีบอลลูนได้หรือไม่ ด้าน พญ.ชลธิชา จารุมาลัย จักษุแพทย์รพ.ปิยะเวท กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยมีอาการตามัวต้องมีการตรวจดูความสามารถในการมองเห็น ความรุนแรงของต้อกระจก ขยายม่านตาเพื่อตรวจจอประสาทตา ดูความดันตา หรือมีโรคตาอื่น ๆ หรือไม่ หลังจากนั้นทีมจักษุแพทย์จะมีการประเมินว่าผู้ป่วยคนใดที่มีอาการส่งผลต่อการมองเห็นเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรือผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการขึ้นตาแล้ว ถ้าระดับถึงกับเป็นต้อ กระจก แม้ว่าการมองเห็นไม่แย่มาก ก็ถือว่าเป็นผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด คือต้องคำนึงถึงสุขภาพโดยรวมอย่างอื่นด้วย นอกจากนี้จะมีการตรวจดูโรคประจำตัวต่าง ๆ หากผู้ป่วยเป็นเบาหวานหรือความดันต้องควบคุมความดันและระดับน้ำตาลเหมาะแก่การผ่าตัด ถ้าระดับน้ำตาลและความดันยังสูงจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่บูธปิยะเวทแคร์ ชั้นจี รพ.ปิยะเวท หรือโทร. 0-2625-6555 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น.
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ถวายเป็นพระราชกุศล