นางสุนีย์ คล้ายนิล ผู้จัดการโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ หรือ PISA ประเทศไทย (ค.ศ.2000-2012) เปิดเผยว่า จากการนำผลการประเมินทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนไทยจาก PISA 2000 ถึง 2012 มาวิเคราะห์พบว่า ถึงแม้ผลการประเมินปี 2012 คะแนนของเด็กไทยจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าการประเมินครั้งที่ผ่านๆ มา แต่สิ่งที่ได้รับจากข้อมูลก็ชี้ให้เห็นว่า เมื่อระบบการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ ย่อมทำให้เกิดความปั่นป่วนทั้งระบบ ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะปรับตัวได้ และข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าขณะนี้การศึกษาไทยกำลังเดินไปในทิศทางบวก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้จึงควรพิจารณาทบทวนผลกระทบที่จะทำให้เกิดความตกต่ำด้วย "ส่วนตัวมองว่าเวลานี้ไม่ควรมีการปฎิรูปการศึกษา หรือแม้แต่การปรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ควรเน้นปรับปรุงเฉพาะจุดมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องการอ่าน เพราะคะแนนการอ่านของเด็กไทยยังต่ำมาก จึงต้องเร่งเรื่องนี้ให้มากที่สุด แม้จะมีการปรับหลักสูตรแต่ครูก็ยังสอนเหมือนเดิม คือ เน้นให้เด็กอ่านออกเสียง ร เรือ ล ลิง ซึ่งการประเมินด้านการอ่านของเด็กไทยก็คงต่ำเหมือนเดิม เพราะการประเมินจะเน้นทดสอบว่าการอ่านเข้าใจและตีความได้หรือไม่ ไม่ใช่อ่านออกอย่างเดียว นอกจากนี้วิชาคณิตศาสตร์ก็ควรเน้นให้เด็กสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ไม่ใช่ทำได้แค่บวกลบคูณหารทศนิยมเท่านั้น เช่น ถ้าถามว่าสินค้าลด 30% จากราคาเต็มเหลือเท่าไหร่ จะซื้อดีหรือไม่ดี ซึ่งเด็กก็ตอบไม่ได้ ดังนั้นต้องปรับวิธีการสอนกันใหม่แต่ไม่ใช่ปรับหลักสูตร"นางสุนีย์กล่าว ต่อข้อถามว่า การเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลการประเมิน PISA หรือไม่ นางสุนีย์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ามีแน่นอน ดูได้จากในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ก็เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ่อยมาก เมื่อมีการเปลี่ยนตัวก็ไม่มีใครอยากจะทำตามนโยบายของคนอื่น เพราะจะทำให้ตัวเองไม่มีผลงาน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบผลพิซ่าสะท้อนเด็กไทยอ่านตีความไม่ได้