สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่าพันเอกสตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แถลงว่าวอชิงตันกำลังเร่งดำเนินการจัดส่งขีปนาวุธแบบเฮลไฟร์ 100 ลูก และอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) รุ่นสแกน อีเกิล อีก 10 ลำ ให้แก่อิรัก ตามรายการสั่งซื้อจากรัฐบาลแบกแดด ทั้งนี้ สินค้าชุดใหม่ทั้งหมดน่าจะเดินทางถึงที่หมายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากขีปนาวุธเฮลไฟร์ชุดแรก 75 ลูก เดินทางถึงอิรักเมื่อกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพนตากอนแสดงความหวังว่า สรรพาวุธดังกล่าวจะสามารถเสริมศักยภาพของกองทัพอิรักในการต่อสู้กับกลุ่มนักรบหัวรุนแรงชาวสุหนี่ ที่มีกลุ่มอัล-กออิดะห์คอยหนุนหลัง ซึ่งยังคงยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองรามาดี และฟัลลูจาห์ ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศได้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า การสู้รบรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้น เป็นผลมาจากการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจถอนกำลังทหารทั้งหมดราว 150,000 นาย ออกจากอิรักเมื่อปี 2554 โดยคาร์นีย์กล่าวว่า การต่อสู้และเหตุนองเลือดหลายรูปแบบในอิรักเกิดจากความไม่ลงรอยกันระหว่างชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาตั้งแต่ขณะที่ทหารอเมริกัน 150,000 นายยังคงประจำการอยู่ ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ว่า การคงกำลังทหารเอาไว้บางส่วนอาจช่วยลดอัตราการเกิดเหตุรุนแรงได้ อย่างไรก็ตาม แม้สหรัฐจะถอนกำลังทหารออกหมดแล้ว แต่รัฐบาลยังคงมอบความช่วยเหลือด้านสรรพาวุธให้แก่อิรักอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ากว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 462,000 ล้านบาท ) นับตั้งแต่ปี 2548
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสหรัฐโต้ข้อครหาเป็นต้นเหตุความรุนแรงในอิรัก