สนับสนุนเว็บ

ผู้เขียน หัวข้อ: กินอย่างไรให้น้ำหนักลด  (อ่าน 154 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Permalink: กินอย่างไรให้น้ำหนักลด

24/ส.ค./18 หัวข้อไอดี: 16682793 | ลิ้งค์หัวข้อ: /topic/16682793

ออฟไลน์ panne rattana

  • ออฟไลน์
  • 620
    1047
    33



  • Grade III
  • ***
  • สมัครสมาชิกเมื่อ 25/05/2017
    YearsYearsYearsYearsYearsYearsYears
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้ : 620
  • Like Post : 33
  • Peny : 1047
  • 175692

    • ดูรายละเอียด


  • เข้าใช้งานล่าสุดเมื่อ 27/มี.ค./22


ใครๆ ก็ไม่อยากพุงโตเอวเป็นชั้นเหมือนพกห่วงยางไปด้วยทุกที่ใช่ไหมคะ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารอร่อยๆ มันช่างยั่วยวนใจเสียนี่

ไหนจะขนมนมเนย ไหนจะชานมอร่อยๆ โอ๊ย อะไรจะมากมายขนาดนี้ แล้วจะทำใจไม่หยิบเข้าปากได้อย่างไร พอรับประทานเยอะพุงก็มา ห่วงยางก็ถามหา ไหนจะคอเลสเตอรอลก็เพิ่ม เมื่ออยากลดน้ำหนักเลยหันไปหาผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักตามท้องตลาด แต่ไม่ได้ค่ะ เราต้องไม่พึ่งพายาพวกนั้น รู้ไหมคะ ว่าเพราะอะไร เพราะมันนำพาโยโย่เอฟเฟกต์มาหา แล้วมันจะอยู่กับเราไปจนมีลูกมีหลาน แค่เปลี่ยนอาหารการกินชีวิตก็เปลี่ยน วันนี้จะพาไปรู้จักเทคนิคเคล็ดลับในการเลือกหาอาหารลดน้ำหนักเข้าปากเรากันค่ะ

ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผล ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่แค่ออกกำลังกายอย่างเดียวอาจไม่พอต้องมีการรับประทานเข้ามาช่วย อาหารลดน้ำหนัก ที่ดีต้องเป็นอาหารที่ครบห้าหมู่ ไม่ใส่ผงชูรส ลดเค็ม ไม่ใส่ผงปรุงรสต่างๆ ที่สำคัญมากคือ ลดน้ำตาลค่ะ มีสถิติจากที่ต่างๆ บันทึกไว้ว่ากว่า 70% ของคนไทยที่อ้วนลงพุงหรือมีห่วงยางรอบเอว เป็นผลมาจากเครื่องดื่มรสหวานต่างๆ ที่คนไทยชื่นชอบ เพราะฉะนั้น เคล็ดลับแรกคือ ต้องลดเครื่องดื่มพวกนี้ให้ได้ เมื่อลดได้ก็เปลี่ยนเป็นงด รู้ไหมคะว่ าในหนึ่งวันหญิงวัยทำงานควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน ลองคิดดูสิคะว่าหากเรายังติดรับประทานเครื่องดื่มรสหวานกันอยู่ จะทำให้เรามีน้ำตาลสะสมมากขนาดไหน ยกตัวอย่างน้ำชาเขียวพร้อมดื่มตามร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนชอบกัน 1 ขวดมีน้ำตาลมากถึง 3-5 ช้อนชา กาแฟเย็นชาเย็นชานมไข่มุกตามร้านข้างทาง บางร้านอาจมีน้ำตาลถึง 11 ช้อนชา ตายแล้วนี่ยังไม่รวมถึงน้ำตาลแฝงที่มากับอาหารที่เรารับประทาน ขนมต่างๆ ผลไม้ ไหนจะไขมันอิ่มตัวจากบรรดานมข้นหวานและนมข้นจืดที่คนไทยติดหนึบ เพราะเพิ่มความมันให้กับเครื่องดื่มอีก นี่แหละค่ะที่เรียกว่า การเสพติดความหวาน โอย ไม่ไหวค่ะ ลดเถอะค่ะ เริ่มต้นจากลดปริมาณน้ำตาลที่เคยบริโภคเพื่อปรับสภาพลิ้นให้รับรสชาติอาหารที่ไม่หวานให้อร่อยขึ้น พยายามตัดอาหารที่หวานออกแต่ละสัปดาห์แบบขั้นบันได เช่น สัปดาห์นี้เลิกรับประทานของหวานหลังมื้อเย็น สัปดาห์ถัดไปเลิกรับประทานของหวาน 2 มื้อ หรือ 3 มื้อตามลำดับ และหากใส่น้ำตาลในชาหรือกาแฟก็ให้ลดจำนวนลง ถ้าทำได้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ความอยากหวานของการรับรู้รสทางลิ้นจะค่อยๆ ลดลงไป

อีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับสำหรับการลดน้ำหนัก คือ อาหารหลักแต่ละมื้อ อาหารลดน้ำหนักที่ดีควรปรุงเอง เพราะเราจะควบคุมปริมาณเกลือ ไขมัน และผงชูรสได้ หากใครบอกว่าทำอาหารไม่เป็น ไม่เป็นไรค่ะการทำอาหารไม่ได้ยากเกินไป ตอนนี้ในยูทูบมีสอนทำอาหารตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นตอนสุดท้าย มีคนดังในทีวีหลายคนที่เริ่มจากทำอาหารไม่เป็นเลยจนตอนนี้ถึงกับมีเมนูอาหารพิมพ์ออกมาจำหน่าย เริ่มจากอาหารง่ายๆ ปรุงไม่ยากเช่นพวกต้ม นึ่ง ผัดง่ายๆ อ้อ! อย่าลืมว่าควรใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก เป็นต้น เนื้อสัตว์ก็ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย ไขมันน้อยๆ มีผักมาเสริมทุกมื้อเพื่อช่วยเรื่องกากใยอาหาร อาหารลดน้ำหนักควรเป็นอาหารที่รสไม่จัดจนเกินไป ไม่เค็ม เพื่อลดการบวมน้ำหากมีเกลือในร่างกายมากเกินไป อาหารหลักปกติเราจะรับประทาน 3 มื้อ ให้ลองแบ่งออกมาเป็น 5 มื้อเล็กๆ จะยิ่งกระตุ้นการเผาผลาญอีกแรง

กินอย่างไรให้น้ำหนักลด คลิ๊กที่นี่ คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
http://thetastefood.com/
อาหารลดน้ำหนัก/

LikePost โดย 0 สมาชิก :


 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 
ร่วมขับเคลื่อนโดย