องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล คาดหวังว่า สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จะล้มเลิกแผนการมอบสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลสโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รูปแบบใหม่ ในปี 2021 ให้กับประเทศจีน ลงเสีย เมื่อมองว่าแดนมังกรเต็มไปด้วยเรื่องฉาวโฉ่ด้านละเมิดสิทธิมนุษยชน บอกถ้ามอบสิทธิ์ให้จะเป็นเหมือนการ "ล้างภาพ" กลบเรื่องวุ่นทุกอย่างลงด้วยการกีฬา
วานนี้ นิวยอร์ค ไทมส์ เสนอข่าวว่า ที่ประชุมของฟีฟ่ามีการลงมติเป็นการภายในแล้วที่จะมอบให้ประเทศจีน เป็นเจ้าภาพสโมสรโลกรูปแบบใหม่ ปี 2021 และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้
สโมสรโลกรูปแบบใหม่จะมีทีมเข้าร่วม 24 ทีม แบ่งสรรปันส่วนโควตาตามทวีป โดยยุโรปได้ 8 ที่, อเมริกาใต้ 6 และทวีปอื่นๆ ที่เหลือทวีปละประมาณ 3 ที่
ด้วยการที่ปี 2021 เป็นทัวร์นาเมนต์แรกสุด และเตะเว้นช่วงทุก 4 ปี จึงจัดสรรโควตาทีมเข้ารวมยึดโยงตามผลงานของหลายฤดูกาล ซึ่งคาดว่า ลิเวอร์พูล กับ เชลซี จะได้ไปในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับแชมป์ยูโรป้า ลีก 2019 ตามลำดับ เช่นเดียวกับ เรอัล มาดริด และ แอตเลติโก มาดริด สองทีมหัวแถวของสเปน จะได้ไปด้วย
ล่าสุด แอมเนสตี้ พยายามแตะเบรค ฟีฟ่า ถึงไอเดียนี้ โดยระบุว่าประเทศจีน โดยเฉพาะกรุงปักกิ่ง มีเรื่องฉาวและชื่อเสียเกินกว่าความเหมาะสมในการได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพกีฬารายการใหญ่ ยิ่งถ้าได้จัดสโมสรโลกแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอนาคต ตามที่มีกระแสข่าวว่าจีนจ้องจะบิดเจ้าภาพเวิลด์ คัพ 2030 อยู่
อัลลัน โฮการ์ธ ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหราชอาณาจักร กล่าวกับพีเอว่า "ถ้าจีนได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพสโมสรโลก ปี 2021 มันจะเป็นการนำเสนอปักกิ่งสำหรับโอกาสอีกครั้งในการล้างภาพด้วยกีฬา (sportswash) จากชื่อเสียงที่มัวหมองในระดับนานาชาติของพวกเขา"
“เป็นไปได้ว่าทางการจีนจะมองว่าทัวร์นาเมนต์นี้เป็นโอกาสที่จะฉายภาพของการเปิดกว้างและความอดทนของพวกเขา ในขณะที่ความจริงที่มืดมนกว่าในประเทศนี้ คือการเป็นประเทศที่มีการเซนเซอร์ข้อเท็จจริงอย่างรุนแรง และมีการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ในซินเจียงอย่างน่าตกตะลึง"
“จีนมีประวัติด้านสิทธิมนุษยชนที่โหดร้าย และฟีฟ่าควรต้องใช้อิทธิพลในการผลักดันให้มีการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนในประเทศ"
“สโมสรใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับสโมสรฟุตบอลโลกที่จีนเป็นเจ้าภาพ ควรผลักดันให้นักเตะและโค้ช ไปจนกระทั่งทีมงานสตาฟฟ์ พูดเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน”
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า ทางการจีนมีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์เข้าสู่ "แคมป์การศึกษา" (re-education camps) เป็นจำนวนมากถึง 1-3 ล้านคน ขณะเดียวกัน จีนยังถูกเพ่งเล็งถึงท่าทีต่อผู้ชุมนุมประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกงอีกด้วย
สนับสนุนโดยเว็บไซต์
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบufa