เสนอแนะเกร็ดเลือกสรรหูฟัง Plantronics ยกให้เหมาะกับตัวเองพร้อมด้วยมือถือที่ใช้ (ระบิไม่ชำนาญ) เพื่อที่จะคนที่พลหาซื้อหูฟังมาใช้ฟังเสียงเพลงง่ายๆ ร่วมกับสมาร์ทโฟน Plantronics เท่านั้นยังไม่รู้เกร็ดเจาะจงเลือกหูฟังที่สมัยนี้มีแบรนด์ต่างๆทำออกมาขายกันเต็มไปเรียบไม่รู้จะเจาะจงเลือกอันไหนดี วันนี้เรามี 6 รีวิวพื้นฐานในการเจาะจงเลือกซื้อหูฟังมาเสนอแนะกัน
1.ลองหูฟัติดขัด้วยตนเองก่อนซื้อทุกครั้ง : สิบปากว่าก็ไม่เท่าตัวเองฟัง มีหลายๆ คนที่ไปอ่านรีวิวหูฟังตามเว็บไซต์ผิดแผกแตกต่างๆ แล้วก็เดินไปจ่ายเงินในร้านรวดไวที่เจอหูฟังที่คิดว่าน่าจะดีจากการไปอ่านรีวิวมา โดยบางร้านก็ปลอดหูฟังตัว demo ให้ทดลองฟังก่อน พอจับจ่ายมาแล้วก็ไม่ถูกใจ เนื่อหยุดยั้ง้วยฉะนั้นควรจะจ่ายจากร้านที่มีหูฟัง demo ให้ลองก่อน Plantronics ซึ่งแม้นทดลองแล้วซื้อกลับมาฟังยังรู้สึกว่าเพราะอะไรตัวที่ซื้อมาเสียงไม่เสมอเหมือนกับตัวที่ลองฟัง คงจะเป็นเพราะว่าหูฟังใหม่ของเรายังไม่เปลี่ยนการใช้งานมาก่อน ส่วนส่วนแหวกแนวๆอย่างไดอะแฟรมซึ่งเป็นส่วนที่เป็นเหตุให้เกิดเสียงก็ยังมีหลักใหญ่ผ่อนไม่ดก พอใช้งานตามปกติไปโดยประมาณ 100 ชม.เสียงก็จะดีขึ้น เรียกว่าเป็นการเบิร์นหูฟังนั่นเอง Plantronics (เสนอแนะว่าอย่าใช้ไฟล์พวก pink noise มาเบิร์นหูฟัง จะทำให้หูฟังป่นปี้ได้ครับ)
2.คัดเลือกแนวเสียงที่ตัวเองชอบ : ปลอดหลักเกณฑ์อะไรที่ได้เสียตัวว่าเพลงแนวนี้จะต้องเลือกสรรใช้หูฟังที่มีแนวเสียงแบบนี้เท่านั้น Plantronics จริงอยู่ที่ว่าเสียงดนตรีบางแนวอาทิเช่น electronic/dance ไม่ก็ฮิปฮอป ควรจะใช้หูฟังเบสหนักๆ ฟังถึงจะสนุกสนาน หรือพวกเสียติดขัดนตรีโอเปร่าที่จะเน้นเสียงย่านกลางแหลมที่เด่นชัดจัดจ้านเป็นสำคัญ เพียงนั้นสุดหางแล้วถึงแม้ว่าเสียงหูฟังที่ซื้อมาไม่ถูกใจคนใช้ก็คงจะไม่คุ้มกับสตางค์ที่เสียไปอยู่ดี จำเป็นจะต้องถามตัวเองก่อนไปคัดเลือกซื้อว่าพึงประสงค์เสียงประมาณไหนจึงจะดีใจ ซึ่งวิถีของหูฟังเองก็จะมีหลายแบบ ทั้งพรรคที่มุ่งเน้นเบสหนักๆ ไม่ใช่หรือบาลานซ์แนวกลางๆ ไปจนถึงแนวที่เน้นประเด็นใส Plantronics ทดลองเทียบเรียบง่ายก็เอาเพลงที่เราฟังตลอดเวลาๆ ไปทดลองกับหูฟังหลายๆ แบบ ก็จะรู้สึกได้ว่าโอกาสฟังแล้วน้ำเสียงที่ได้มันแตกต่างกัน
3.เจาะจงเลือก Plantronics จำพวกหูฟังอุปถัมภ์เข้ารูปกับการใช้งาน
ถ้าแม้ปันประเภทหูฟังตามรูปร่างพร้อมกับ Plantronics สัดส่วนจะแบ่งได้โดยประมาณ 5 จำพวกหลักๆฉะนั้น
- หูฟัง earbud : หมายถึงหูฟังที่เรามองกันมาตั้งอย่างเดียวยุค Sony Walkman ที่ยังไม่ตายเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทเคลื่อนที่ Plantronics พกพาราบรื่น สวมใส่ง่าย เฉพาะมีจุดด้อยซื่อที่มันไม่รวบรวมเสียง ทำให้เวลาฟังเสียบอกเลิกนตรีหรือรายละเอียดที่ได้ไม่แน่อาจจะไม่บริบูรณ์เวลาเราอยู่ในเขตแดนที่มีเสียหยุดัง
- หูฟัง in-ear : หูฟังที่มีจุกยาง (หรือจุกโฟม) ใส่เหยียบย่างในรูหูของเรา ทำให้เราแทบหนักเกินยินเสียงก่อกวนรอบข้างเลย เป็นเหตุให้ได้ยินเนื้อเสียงพร้อมด้วยรายละเอียดต่างๆ ได้เหนือกว่าหูฟัง earbud เพียงนั้นข้อพึงระวังคือเวลาใส่เดินตามสปาย เนื่องจากเราจะ Plantronics หนักเกินยินเสียงรถหรือสิ่งของแหวกแนวๆ ด้านนอกเลย ทำเอาเกิดร้ายแรงได้ (จริงๆ ปริมาตรของตัวจุกยางหรือจุกโฟมก็มีผลต่อการฟังเสียงเพลงกับการขับเสียงด้วย อย่างเดียวเดี๋ยวจะยาว ติดแน่นเอาไว้ก่อนละกัน)
- หูฟัง ear clip : หมายถึงหูฟังที่เราไม่ค่อยจะได้ชมกันแล้วในระยะเวลานี้ โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นดังๆ อย่าง Koss KSC35 คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
Plantronics
ซึ่งหาซื้อได้มักจะยากแล้ว พร้อมกับก็ไม่ค่อยมียี่ห้อไหนกำเนิดออกมาด้วย
- หูฟัง on-ear : มีชีวิตหูฟังความจุใหญ่ที่มีตัวโฟมวางอยู่บนใบหู มีสัดส่วนไดรเวอร์ที่โค่งกว่าหูฟัง earbud พร้อมทั้ง in-ear มาก เป็นเหตุให้จำลองเสียงออกมาได้ดี มีสเตจที่กว้างกว่าหูฟัง 3 ประเภทชั้นบน (เท่านั้นก็ไม่เสมอไป) Plantronics หลายๆ แบรนด์ร่างแบบหูฟังนี้ให้พับประมวลกระชับๆได้ น้ำหนักเบา ใส่กระเป๋ารถพกพาคล่อง
- หูฟัง over-ear : หลายๆ คนเอ่ยหูฟังจำพวกนี้ว่าหูฟังแบบครอบหู โดยตัวโฟมหูฟังมีสัดส่วนใหญ่ปิดคลุมหูทั้งใบของเราไว้ มีปริมาตรไดรเวอร์ใหญ่มากมายในหูฟังทั้ง 5 ประเภท แต่มีความจุตัวหูฟังที่ใหญ่เทอะทะหน่อย เฉพาะแน่แท้ว่าได้สเตจโล่งสุดกว่าทุกประเภท Plantronics แรกๆ ตัวหูฟังนั้นใหญ่และหนักจนส่วนมากจะเอาไว้ฟังที่บ้านเรือนกัน เฉพาะหลังๆ จะแลดูว่ามันกลายเป็นแฟชั่น หลายๆ คนก็ใส่ออกมาเดินตามท้องทางกันบานตะไทไม่ปราชัยแบบ on-ear
Tags : หูฟัง plantronics