สนับสนุนเว็บ

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - boiopil020156889

หน้า: 1 2
1
ขายส่งขมิ้นชัน สมุนไพรไทย ช่วยแก้ไท้องอืดท้องเฟ้อ

2
ขายส้มเเขก สมุนไพรสำหรับลดน้ำหนัก

5
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก

ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญเติบโตในแถบประเทศอินเดีย แอฟริกา แล้วก็เอเซียอาคเนย์ ใบและลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของอินเดียแล้วก็จีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค ยกตัวอย่างเช่น โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งยังเอามาเข้าครัวได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก
มีสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสถาพทางร่างกายอยู่หลายประเภท ตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือสามเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียตำหนิวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียตำหนิก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) รวมทั้งกรดมาดีคาสสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายประเภท อย่างเช่น บรรเทาอาการอักเสบ ถ้าเกิดใช้กินอาจมีคุณลักษณะช่วยลดความดันเลือดในเส้นเลือดดำ และก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆยกตัวอย่างเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ การต่อว่าดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด ฯลฯ นอกเหนือจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าถ้าใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับในการสมานบาดแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมทั้งปัญหาท้องลายที่เกิดขึ้นจากการมีครรภ์ แม้กระนั้นหลักฐานหรือหลักฐานทางการแพทย์มีมากมายน้อยมีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองความเชื่อ สรรพคุณ รวมทั้งความปลอดภัยของใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก
สำหรับเพื่อการรักษาโรคเหล่านี้
การรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจได้ผล
เส้นเลือดขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งกล่าวว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงรวมทั้งสร้างสมดุลสำหรับเพื่อการเจริญวัยของเนื้อเยื่อเกี่ยวเนื่อง (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและก็เส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับแต่งการไหลเวียนของเลือด นอกเหนือจากนี้ ยังมีการศึกษาโดยการทบทวนงานศึกษาวิจัยที่เกี่ยวพัน 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนเจ็บที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก และก็อาการบวมน้ำทุเลาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยทุเลาอาการคนเจ็บเส้นเลือดขอดเรื้อรังลงได้ แต่ว่าจากงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่าผลสรุปข้างต้นต้องตีความหมายด้วยความระวังเนื่องด้วยข้อจำกัดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้ และยังจะต้องศึกษาเพิ่มเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องและมีคุณภาพมากพอสำหรับเพื่อการประเมินประสิทธิภาพการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานส่งเสริมน้อยเกินไป
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับเพื่อการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการเรียนชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคเส้นเลือดแดงแข็งที่ไม่แสดงอาการกรุ๊ปหนึ่งทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน และอีกกรุ๊ปไม่รับประทาน แล้วตรวจหาความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นโลหิต พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่มไม่ได้มีความแตกต่างกัน แต่ในกรุ๊ปที่รับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดลง ปริมาณไขมันหรือพลัคที่เส้นโลหิตแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมถึงลักษณะของพลัคความดกและความยาวก็ลดลงด้วยด้วยเหมือนกัน อีกทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่ปรารถนา สามารถทนต่ออาการข้างเคียงได้ แล้วก็มีการบันทึกผลการตรวจเลือดบ่อยๆ เนื่องจากหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองปกป้องลิ่มเลือด การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นรถเรือบินเป็นเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาเสนอแนะว่าใบบัวบกอาจช่วยลดของเหลวและเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในคนที่โดยสารเรือบินติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่เป็นที่แจ่มชัดว่าการศึกษาชิ้นนี้จะหมายความว่าการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เนื่องจากว่าหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการคุ้มครองลิ่มเลือดยังไม่เพียงพอ ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในคนป่วยเบาหวาน งานศึกษาเรียนรู้หนึ่งให้คนไข้เบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยจำนวน 50 คน รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารสามเทอร์พีนอยด์เป็นสาระสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันตรงเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก พบว่าสารตรีเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีคุณประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิตในเส้นเลือดฝอยของผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน แต่หลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังไม่พอ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
แผลเบาหวาน มีการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณภาพแล้วก็ผลข้างเคียงของการรับประทานสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลเบาหวาน โดยแบ่งผู้เจ็บป่วยเบาหวานปริมาณ 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งกินสารทวีปเอเชียติวัวไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มิลลิกรัม รวมทั้งอีกกลุ่มรับประทานยาหลอกปริมาณ 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง รวมทั้งมีการให้คะแนนทุก 7 วัน พบว่าแผลของผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากกว่าและไม่พบผลข้างเคียง หรือเรียกได้ว่าสารสกัดจากใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก
อาจมีคุณภาพสำหรับการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ได้โดยสวัสดิภาพโดยไม่เกิดผลข้างเคียง แต่เนื่องด้วยหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการรักษาแผลโรคเบาหวานยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
แผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ยกตัวอย่างเช่น เอเชียติเตียนวัวไซด์ กรดทวีปเอเชียว่ากล่าวก มาเดแคสโซไซด์ รวมทั้งกรดมาดีคาสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในร่างกายและก็อาจมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา รอยแผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลแบบนูน ซึ่งจากงานศึกษาค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งได้เสนอแนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกรอบๆผิวหนังภายหลังเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 สัปดาห์ อาจช่วยลดการเกิดแผลได้ รวมทั้งแผลแบบนูนหรือคีลอยด์ แต่ว่าเพราะเหตุว่าหลักฐานสนับสนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อแผลยังไม่พอ ก็เลยควรต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการท้อง ได้มีงานศึกษาวิจัยเสนอแนะให้คนที่กำลังตั้งครรภ์ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน เป็นประจำทุกๆวันในช่วง 6 เดือนในที่สุดก่อนจะมีการคลอด ซึ่งอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงตั้งครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจก่อให้เกิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แต่เนื่องจากหลักฐานสนับสนุนคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
ลดความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ การดูแลรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อทุเลาอาการเศร้าใจแล้วก็ความรู้สึกกลุ้มใจ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับเพื่อการลดความรู้สึกกลุ้มใจ โดยสุ่มให้อาสาสมัครรับประทานใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดสอบแสดงให้เห็นว่าใบบัวบกมีฤทธิ์ต่อต้านความรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ช่วยลดความเครียด แต่ว่ายังคงต้องศึกษาเพิ่มถัดไปถึงประสิทธิภาพของใบบัวบกสำหรับการรักษาโรคตื่นตระหนก
โรครวมทั้งอาการอื่นๆได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมเป็นแล้งแดด การต่อว่าดเชื้อฟุตบาทเยี่ยว โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเดิน ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังควรต้องวิจัยหาคุณภาพและก็ความปลอดภัยสำหรับในการรักษาต่อไป
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการกินใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก
ทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แม้กระนั้นการกินใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก คนที่กำลังมีท้อง หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานด้านการแพทย์เพียงพอที่จะเกื้อหนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งยังต่อเด็ก แม่ หรือทารกในท้อง
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อตับ ด้วยเหตุนี้คนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรรับประทานใบบัวบก เนื่องจากว่าอาจจะก่อให้อาการต่างๆแย่ลงได้ รวมถึงไม่ควรกินใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกรุ๊ปเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น พาราเซตามอล อะไม่โอดาโรน คาร์บามาซีปีนป่าย ไอโซไนอะซิด ซิมวาสแตว่ากล่าวน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในปริมาณมากอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนได้มากกว่าปกติ หรือแม้กินร่วมกับยานอนหลับหรือยาความหนักใจลดลง ดังเช่น โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และโซลพิเดม
ควรจะหยุดรับประทานใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บัวบก
อย่างต่ำ 2 สัปดาห์สำหรับคนที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด เพราะบางทีอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการผ่าตัดและอาจจะเป็นผลให้รู้สึกง่วงนอนได้มากขึ้น
ควรขอความเห็นแพทย์ก่อนกินใบบัวบก หากอยู่ในตอนการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์แม้รับประทานใบบัวบกในระหว่างการรักษาของคนไข้โรควิตกกังวล ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่หรูหราคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ผู้เจ็บป่วยอัลไซเมอร์ รวมถึงผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาคลายความไม่สบายใจ แล้วก็ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจก่อให้กดประสาทมากขึ้น คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
http://www.disthai.com/


Tags : สมุนไพรบัวบก

6
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ

ชื่อวงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acanthus ebracteatus Vahl
ชื่อพ้อง : Acanthus ilicfolius L. ; Acanthus ilicfolius L. var intergrifolia T.Anderson
ชื่อสามัญ : Sea holly
ชื่อท้องถิ่นอื่น : แก้มแพทย์, แก้มหมอเล (กระบี่) ; จะเกร็ง, นางเกร็ง, เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วไป) ; อีเกร็ง (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่มขนาดเล็ก (US) สูงราวๆ 30-100 ซม. ลักษณะลำต้นเป็นข้อ แข็ง แล้วก็มีหนามอ่อนๆตามข้อๆละ 4 หนาม
ใบ เป็นใบโดดเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆสีเขียวเข้ม ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปขอบขนาน ขอบของใบเว้าหรือเรียบ และก็มีหนามแหลม ปลายใบแหลม มีก้านใบสั่นๆ
ดอกคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
ออกเป็นช่อตั้งชันที่ยอด ช่อดอกยาว กลีบรองกลีบดอกไม้ มี 4 กลีบ แยกจากกันสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาว สีขาวขริบฟ้า หรือสีฟ้าอมม่วง แยกเป็น 2 ทาง กลีบบนยาวพอๆกับกลีบรองกลีบ แต่ว่ากลีบด้านล่างแผ่กว้างและก็โค้งลง ปลายกลีบหยักเว้าเป็น 3 หยักตื้นๆ
ผล เป็นฝักสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน มีเม็ดด้านใน 4 เมล็ด
นิเวศวิทยา
เป็นไม้กลางแจ้ง มีอยู่ทั่วๆไปในป่าชายเลน ตามที่ลุ่มริมน้ำคลอง ส่วนมากชอบขึ้นในที่น้ำกร่อย แต่บางทีก็พบในน้ำจืดบ้างเหมือนกัน
การปลูกแล้วก็เพาะพันธุ์
เจริญเติบโตได้ดิบได้ดีในดินดูเหมือนจะทุกประเภท ความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเม็ด
คุณประโยชน์ทางยา
รสแล้วก็คุณประโยชน์ในตำรายา
ต้น รสเค็มกร่อย แก้อาการผดผื่นคัน
ใบ รสเค็มกร่อย รักษาโรคปวดบวมแล้วก็แผลอักเสบ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หมอแผนไทยตามชนบทใช้อีกทั้ง 5 เป็นยาแก้ไข้หัว พิษฝี พิษกาฬเจริญ แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ปรุงกับฟ้าทลายมิจฉาชีพรมหัวริดสีดวงทวาร โขลกใบผสมกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาแก้อาการตาเจ็บหรือตาแดง
ผล รสเค็มกร่อย ใช้เป็นยาขับเลือดอย่างแรง แล้วก็แก้ฝีซาง ฝีตาน
ในประเทศประเทศอินเดีย ใช้ยอดและใบอ่อนตำผสมน้ำเล็กน้อยปิดแผลที่ถูกงูกัด อีกทั้งต้นใช้รักษาแก้โรคที่เกี่ยวกับหลอดลมแล้วก็แก้ไอ และเอามาต้มเอาน้ำเป็นยารักษาธาตุทุพพลภาพ
ในประเทศสิงคโปร์ ใช้เมล็ดเป็นยาแก้ไอ โดยต้มเมล็ดกับดอกมะเฟืองหรือดอกตะลิงปลิง แล้วเพิ่มเปลือกอบเชย และก็น้ำตาลกรวด จิบแก้ไอ เม็ดบดเป็นผุยผงใช้พอกแก้ฝี หรือนำไปคั่วแล้วป่นละลายน้ำดื่มแก้ฝี ฝักต้มกินเป็นยาขับโลหิต และแก้ฝี รากต้มเป็นยาดื่มแก้โรคงูสวัด
วิธีและก็ปริมาณที่ใช้
รักษาโรคผิวหนัง แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย โดยใช้ทั้งยังต้นและใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด สับเป็นชิ้นนำไปต้มน้ำ แล้วก็ใช้น้ำอาบ รุ่งเช้า-เย็น ตรงเวลา 1 สัปดาห์
ข้อควรจะทราบ
เหงือกปลาหมอมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
เหงือกปลาหมอ Acanthus ilifolius L. หรือ Acanthus ilifolius L. var intergrifolia T.Anderson ลักษณะจะมีดอกสีฟ้าอมม่วง มีประสีเหลืองกึ่งกลางกลีบ มีใบเสริมแต่งสีเขียวอีก 2 กลีบ รองรับดอกอยู่เป็นประจำไป
เหงือกปลาหมอ Acanthus ebracteatus Vahl ลักษณะจะมีดอกสีขาวค่อนข้างจะเล็ก มีใบตกแต่งรองรับช่อดอก แม้กระนั้นหล่นหลุดไปก่อน
คุณประโยชน์ของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพดี เลือดลมไหลเวียนดี เส้นเลือดไม่ตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคลุกเคล้าผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าถ้ากินติดต่อกัน 1 เดือน จะทำให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 ชนิด หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่รู้จักอิดโรย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง / 9 เดือน หนังเหนียว (ต้น, ราก)
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
มีคุณประโยชน์ช่วยทำนุบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุไม่ปกติ (ทั้งยังต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมปกติ (ต้น)คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
ขาว
ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ทั้งต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการซูบผอมเหลืองตลอดตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผงกินวันแล้ววันเล่า (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนหมดทั้งตัว เจ็บระบบทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ทั้งต้นของเหงือกปลาหมอและเปลือกมะรุมอย่างละเสมอกัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วก็ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำเดือดจนงวดแล้วชูลง เมื่อเสร็จให้กลั้นใจรับประทานขณะอุ่นๆจนหมด อาการก็จะดีขึ้น (ต้น)
ช่วยยับยั้งโรคมะเร็ง ต่อต้านโรคมะเร็ง (ทั้งต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งต้นและก็อาหารเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ในรูปทรงที่เสมอกัน เอามาต้มกับน้ำจนเดือดแล้วนำมาดื่มในขณะอุ่นๆทีละ 1 แก้ว เช้า ตอนกลางวัน เย็น อาการจะดีขึ้น (ต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยแก้ลักษณะของการปวดศีรษะ (ต้น)
รากช่วยแก้และก็บรรเทาอาการไอ หรือจะใช้เม็ดเอามาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้ด้วยเหมือนกัน (ราก, เม็ด)
ช่วยแก้โรคหืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นมัวแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ทั้งต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (ต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งต้นและรากเอามาต้มอาบแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
แก้อาการไอ เมล็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสมหะ (ราก)
ถ้าเกิดเป็นลม ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างละเอียดเป็นผุยผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้อีกทั้งต้นและก็พริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (อีกทั้งต้น)
ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย นำมาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายมิจฉาชีพ ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับฉี่ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการกางใบและต้นนำมาตำเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้เมนส์มาไม่ปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งต้นเอามาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการใช้ใบเอามาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตทุพพลภาพ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

ผลช่วยขับโลหิต หรือจะใช้เมล็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วเอาแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนแล้วก็พริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนรับประทานก็ได้ (เม็ด, ผล, ต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยสมานแผล ด้วยการใช้ต้นนำมาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (อีกทั้งต้น)
ต้นคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
มีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย คุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น นำมาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับผู้ป่วยโรคภูมิคุมกันบกพร่องที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง ถ้าใช้ต้นมาต้มอาบรวมทั้งทำเป็นยารับประทานต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยทำให้ลักษณะของแผลพุพองทุเลาลงอย่างชัดเจน (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่าดง รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้ต้นนำมาตำมัวแต่น้ำดื่ม (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้ผื่นผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดราว 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันติดต่อกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง ฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกประเภทอีกทั้งด้านในด้านนอก ด้วยการใช้ต้นรวมทั้งใบสดและแห้งประมาณ 1 กำมือ เอามาบดอย่างถี่ถ้วน แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือวิธีที่สองจะนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วนำมาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารทีละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง ประมาณ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เกรียมแล้วป่นอย่างรอบคอบ ชงกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เมล็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน สรรพคุณช่วยถอนพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างถี่ถ้วน สามารถใช้พอกรอบๆแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (อีกทั้งต้น)
ต้น ถ้าประยุกต์ใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาหมดทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีคุณประโยชน์ช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้อาการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนกิน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบปรับปรุงข้ออักเสบและแก้อาการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรักษารากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบนำมาทาให้ทั่วศีรษะ จะช่วยทำนุบำรุงรากผมได้ (ใบ) คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
http://www.disthai.com/

7
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ

รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน กลากโรคเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มหมอ แก้มหมอเล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในหนังสือเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกชนิด
ในเมื่อคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลา
หมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดจากเชื้อไวรัสก็จะเบาลงลง
สมุนไพร เหงือกปลาหมอเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางสูงโดยประมาณ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นรวมทั้งใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งรวมทั้งมีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกไม้จะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เม็ด จะสามารถพบมากตามชายน้ำ ริมฝั่งลำคลองบริเวณปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสโรคภูมิคุมกันบกพร่อง แม้ว่าจะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วๆไป แต่เมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยังยากินแล้วก็ต้มน้ำอาบติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะลดน้อยลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคนป่วยโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและวิธีใช้ยาก็มีหลายแนวทางหมายถึง
วิธีต้มยากินแล้วก็อาบ
เอาคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลาหมอ
สดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆทีละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้า-เย็น ก่อนที่จะกินอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น จำต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจะต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดเสียก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำธรรมดาตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นทีละ 3-4 ขัน แต่ว่าถ้าหากมีเหงือกปลาแพทย์เยอะๆ อาจจะต้มยาเพื่อแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
วิธีการทำเป็นยาลูกกลอน
นำเหงือกปลาแพทย์ 5 คราวตากแห้งมาบดเป็นผุยผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ผู้ใหญ่กินทีละ 2 เม็ด เด็กบางครั้งก็อาจจะรับประทานทีละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและน้ำหนัก กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร ตอนเช้า-เย็น รับประทานไปเรื่อยๆจวบจนกระทั่งจะหาย แม้กระนั้นหากเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานขาดตกบกพร่องก็ต้องรับประทานตลอดไป
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

กระบวนการทำเป็นแคปซูล
นำผงคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลา
แพทย์ที่ผ่านการบินเป็นผงละเอียดราวกับแป้งใส่แคปซูลขนาด 250 มิลลิกรัม คนแก่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนรับประทานอาหาร เด็กลดน้อยลงตามส่วน
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณเยอะแยะ เป็นต้นว่า
-ราก มีสรรพคุณสำหรับเพื่อการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ รวมทั้งใช้ขับเสมหะ
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายแบบ โดยใช้ต้นตำผสมน้ำรักษาวัณโรค อาการผอมโซ หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาแตกต่างออกไปอีก
-ทั้งยังต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้ต้นลม แก้โรคผิวหนังทุกประเภท
-ต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มรับประทานแก้พิษโรคฝีดาษ ฝีทั้งสิ้น ผลกินเป็นยาขับเลือดรอบเดือน นอกจากนั้น ถ้าเกิดตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" ต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาหมดทั้งตัว
- ทั้งยังต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะ
- ตำเอาน้ำดื่มกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงกิน โรคเรื้อน คุดทะราด เป็นไข้จับสั่น
- ต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บข้างหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนรับประทาน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผ่ายผอมเหลืองทั้งตัว รับประทานแต่ละวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือนิดหนึ่ง หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 ท่อน ต้มกับน้ำจนเดือดให้งวดก็เลยยกลง กลั้นหายใจรับประทานขณะอุ่นจนถึงหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนหมดทั้งตัว เวียนหัว ตามัว เจ็บระบมตลอดตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาแพทย์"  5 รวมราก กับ อาหารเย็นเหนือ อาหารเย็นใต้ จำนวนเท่ากัน กะตามอยากได้ ต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้าตรู่ ตอนกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดีขึ้น ไปให้แพทย์เอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย และต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลา
แพทย์" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานทุกวี่ทุกวัน
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกประเภทหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 จำพวก หูดี
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่ทราบอิดโรย
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงไพเราะ
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เหงือกปลา
หมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าเกิดผิวแตกหมดทั้งตัวหายได้ ทั้งสิ้นที่บอกเป็นแบบเรียนยาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่สมควรดูถูกดูแคลน รู้ไว้เป็นวิชา คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
http://www.disthai.com/


Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ

8
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บุก
มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะยังไงนี่ เรากำลังดูหนังการสู้รบอยู่หรอ ไม่ครับ บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงศัตรูบุก แต่หมายถึงหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก รวมทั้งที่ต้องหนี ไม่ใช่คนใดกันแน่ที่แหน่งใด แต่เป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในขณะนี้อย่างโรคอ้วน เบาหวาน ต่างหากที่จำต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นคือ หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็ไม่ได้แพร่หลายหรือเป็นยอดนิยมราวกับเวลานี้เพราะว่าจริงๆทีแรกมันก็เป็นพืชพื้นบ้านอยู่ดี  คนภายในแคว้นก็นำบุกมาเตรียมอาหาร เหมือนเผือก ราวกับมันทั่วไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   คุณประโยชน์ต่างๆของมัน เลยกลายเป็นพืชสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และก็อื่นๆอีกมากมาย วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเกินความจำเป็นที่จะนำทุกคนมารู้จัก พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบลึกซึ้งมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นปีศาจ  น่าสะพรึงกลัวนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากลักษณะของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อตระกูล    ARACEAE
ชื่อตามเขตแดน  :  บุกลุกงคก (ชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
เราเจอบุกเหมาะไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่พบทั่วๆไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่ตาม ป่าเขา รวมทั้งบางโอกาสก็พบตามพื้นที่ ทำนา เป็นต้นว่าที่ปทุมธานี แล้วก็จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกประเภท แต่ว่าจะเจริญเติบโตเจริญให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังและดินที่มีฮิวมัส หรืออินทรียวัตถุสูง
รูปแบบของต้นบุก
ลักษณะของต้น บุก บอกให้เห็นองค์ประกอบคือใบบุก แล้วก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่เราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  แบบเดียวกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่ราวๆ 25 ซม. (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่บางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษแตกต่างออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บุก
  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางชนิดมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือครั้งคราวบุกบางชนิดก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวข้างบน  จะมีความคิดเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่หลากหลายมากมาย  แม้กระนั้นที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเป็บุกเป็น จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีทรงแผ่กว้างแบบร่ม แม้กระนั้นบาง ชนิดจะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม ด้วยเหตุนี้ลักษณะของใบบุก มีหลายแบบอย่างขึ้นอยู่กับจำพวกของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าโค แต่ละประเภทมีขนาด สี และรูป ทรงแตกต่างกัน บางประเภทมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นเสมือนเนื้อสัตว์เน่า บุกชนิดอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกชอบมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แต่ว่าบุกสามารถมีดอกได้ในตอน เวลาต่างๆกัน ช่วงเวลาสำหรับการแก่เต็มกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็ไม่เหมือนกัน
 ผลคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บุก
(อย่างงงันกับหัวบุกนะ ) หลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเกิดผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง พอเพียงอายุ ได้ 1-2 เดือน จะมีผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกจำนวนมากจะมีลักษณะคล้ายกัน แม้กระนั้นเม็ดด้านในแตกต่างกัน พบว่าส่วนใหญ่มีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางประเภทก็มีเม็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

บุกกับการนำมาปรุงอาหาร
เป็นพืชของกินพื้นบ้านซึ่งชาวไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ท่อนหัวบุกมีการนำไปดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขตามแต่ละภูมิภาค เป็นต้นว่าทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำขนมที่เรียกว่าขนมบุก แกงบวชมันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคทิศตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งกินอาหาร ทางภาคเหนือโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนดอย มักเอามา ปิ้งรับประทาน ภาคกึ่งกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจึงนำไปทำเป็นของหวาน
*คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บุก
มีหลายแบบหลายชนิด อาจขมแล้วก็เป็นพิษ ทุกประเภทมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งๆที่ก้านใบรวมทั้งหัว ซึ่งอาจจะทำให้คัน ก่อนนำมาปรุงอาหารต้องต้มเสียก่อน ไม่งั้นกินเข้าไปทำให้คันปากแล้วก็ลิ้นพอง
อาหารที่ดัดแปลงมาจากบุก
เดี๋ยวนี้มีการนำบุกมาดัดแปลง ทั้งยังในรูปแบบของเส้นคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
บุก
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากส่วนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถนำมาปรุงเป็นของกินจานอร่อยได้ ผมว่าคนใดกันเคยไปรับประทานเนื้อย่างคงจะเคยเจอบ้าง เว้นเสียแต่เส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบฮิตๆสมัยก่อนเป็นเจเล่ ผสมผงบุก หากจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาด้วยนะครับ)
คุณประโยชน์ของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 ชนิดเป็นดี-เดกซ์โทรส (D-glucose) และ (D-mannose) เป็นสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แต่ร่างกายเสื่อมสภาพได้ยาก ซับได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและก็สารอาหารน้อย เหลือกากมากมาย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี คนที่อยากได้ลดความอ้วนนิยมทานอาหารจากแป้งบุก เป็นต้นว่า วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เพราะว่ากินอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ไม่ทำให้อ้วน
ยิ่งกว่านั้นเองเจ้า สารกลูวัวแมนแนนนี้ สามารถลดจำนวนน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความรั้ง ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งเหนียวหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูวัวลส เพราะฉะนั้น กลูโคแมนแนนช่วยลดน้ำตาลเจริญมาก ปัจจุบันนี้ก็เลยใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นของกินสำหรับผู้เจ็บป่วยเป็นโรคเบาหวาน และสำหรับคนป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละครับผมเป็นผลดีจากบุก ทดลองหามาทานกันครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ ปัจจุบันไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว เสนอแนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับ รับรองอร่อยแท้ๆ คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
http://www.disthai.com/


Tags : สมุรไพรบุก

9

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
น้ำมันนวดสมุนไพร

อาการปวดหายได้อย่างไร เมื่อใช้น้ำมันนวด
ซึ่ง การใช้น้ำมันตัวนี้นะคะ พวกเราแค่ทาลงไปในส่วนที่พวกเราปวดนะคะ หรือมีการอักเสบของกล้ามเนื้อ เท่านี้ค่ะตัวยาจะซึมเข้าไปทำให้อาการปวดเมื่อยล้าลดลง อีกอย่างที่สำคัญนะคะ
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะกับคนใดบ้าง?

  • ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • คนที่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการทำงานหนัก
  • ผู้ที่ปวดมือแล้วก็คอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
  • ปวดหลังจาก Office syndrome
  • คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
  • ผู้ที่ปวดหัวเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
  • ปวดขาจากการเดิน Shopping
  • บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
  • ตีดอท จนปวดมือ
  • ปวดคอจากการเล่นมือถือ
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
น้ำมันนวดสมุนไพร
ที่ดีเลิศของคุณบรรเทาร่างกายรวมทั้งเกื้อหนุนการนอนหลับที่ดียิ่งกว่าสำหรับวัน.
หลายท่านทรมานจากความผิดแปลกของการนอนหลับต่างๆได้สังเกตเห็นการปรับปรุงแก้ไขในนิสัยการนอนของพวกเขาข้างหลังการดูแลและรักษาด้วยการนวดบรรเทา. น้ำมันนวดกระตุ้นจิตใจแล้วก็จิตวิญญาณ การบำบัด, น้ำมันนวดสมุนไพรเพราะฉะนั้นคนโดยส่วนใหญ่มีประสบการณ์การนอนหลับลึกและก็พักมากเพิ่มขึ้น.
ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น
น้ำมันนวดสมุนไพรเพิ่มขึ้นและก็รักษาความยืดหยุ่นของข้อต่อของคุณ. นวดตัวที่มีประสิทธิภาพแนวทางการทำงานของกล้ามทั้งหมด, เนื้อเยื่อแล้วก็ข้อต่อจึงปรับแก้การแสดงกีฬาแล้วก็การบริการความสะดวกสำหรับการขยับเขยื้อนร่างกายของคุณง่ายดายมากยิ่งขึ้น. เว้นเสียแต่สิ่งเหล่านี้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ, นวดยังช่วยคุ้มครองปกป้องการเจ็บและก็เพิ่มความเร็วสำหรับเพื่อการหาย. นวดแผนโบราณยังเป็นวิธีที่เยี่ยมสำหรับเพื่อการบรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและทำนุบำรุงร่างกายของคุณ พอดิบพอดี รวมทั้งมีความยืดหยุ่นเป็นระยะเวลานาน.
กำจัดสารพิษ
สิ่งที่ได้เปรียบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการนวดน้ำมันคือมันช่วยทำให้ร่างกายได้อย่างมีคุณภาพกำจัดพิษจากสิ่งมีชีวิตด้วยเหตุนี้การผลักดันและส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น.
ช่วยเพิ่มระบบภูมิต้านทาน
บริการคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
นวดน้ำมันนวดสมุรไพร
แล้วก็ส่วนมากสร้างความเข้มแข็ง ระบบภูมิคุ้มกันและก็ช่วยสำหรับการย่อยอาหาร.
ศิลปะที่งามของการนวดได้ทวีความรุนแรงเยอะขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณสมบัติรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆในการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ยอดเยี่ยมสำหรับความอยากได้ส่วนตัวของคุณและก็น้ำมันนวดสมุนไพรผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยการคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
น้ำมันนวดสมุนไพร
บรรเทาและก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อจะรักษาความสมดุลทางด้านจิตวิญญาณของคุณและร่างกายที่แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
โรคนี้จะไม่อาจจะหายไปได้เอง!
โรคต่างๆเกี่ยวกับข้อจะไม่สามารถหายสนิทได้เอง ถึงแม้ว่าอาการที่แสดงออกมาจะร้ายแรงลดน้อยลงก็ตาม รวมทั้งท้ายที่สุดก็จะเปลี่ยนเป็นโรคเรื้อรังและนำไปสู่ความลำบากน้ำมันนวดสมุนไพรในการดำเนินชีวิตมากขึ้น
1.คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
น้ำมันนวดสมุนไพร
จะเข้าไปช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของระบบประสาท ให้ปฏิบัติงานได้ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลดอาการเคร่งเคลียดให้พวกเราบรรเทาจากการความอ่อนเพลียรวมทั้งความเหนื่อยสะสม
2.สงน้ำมันนวดสมุนไพร จะเข้าช่วยการกระตุ้นลักษณะการทำงานของเลือด ให้ปฏิบัติงานก้าวหน้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นแล้วก็สามารถหล่อเลี้ยงออกสิเจนและสารอาหารต่างๆไปทั่วร่างกายอย่างครบถ้วน คุ้มครองป้องกันโรคต่างๆแล้วก็ลดระดับความดันเลือดเจริญด้วย
3.น้ำมันนวดสมุนไพรเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย ด้วยการเข้าไปซ่อมแซมแล้วก็ฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆภายในร่างกายให้ดำเนินงานก้าวหน้าและก็มีคุณภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
4.เพิ่มความชื้นให้กับผิว ด้วยเข้าไปกำจัดพิษ ทั้งยังภายในร่างกายรวมทั้งสภาพผิว ช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมาส่งให้ผิวของคุณเรียบเนียนชุ่มชื้น มองผ่องใสรวมทั้งชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
5.ช่วยในหัวข้อการนอนให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม บรรเทาสมองรวมทั้งร่างกายต่างๆส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้นอนหลับสนิทได้ดีมากยิ่งกว่ากว่า ลดอาการนอนไม่หลับได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกเหนือจากนี้น้ำมันนวดสมุนไพรยังเป็นประโยชน์อีกหลายประเภทต่อสถาพทางร่างกาย ซึ่งถือว่าเป็นหนทางแก่แฟนสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม
ลดลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
     สำหรับคนที่เคยทรมานจากลักษณะของการปวดหัวไมเกรนอยู่บ่อยมาก หมอก็ได้เสนอแนะให้ลองไปนวดบำบัดรักษาสุขภาพดูบ้าง เนื่องจากว่าจากผลการศึกษาเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พบว่า คนที่มีลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนที่ได้รับบริการนวดตัวต่อเนื่องกัน 2-3 อาทิตย์ จะสามารถบรรเทาอาการข้างเคียงของโรคไมเกรน และก็นอนหลับได้อย่างสนิทขึ้นด้วยค่ะ
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
น้ำมันนวดสมุนไพร
ขึ้นกับการใช้งาน และสรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละชนิด โดยส่วนใหญ่น้ำมันเบื้องต้นที่นิยมนำมาผสมทำน้ำมันนวด เช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงขึ้นยิ่งกว่าน้ำมันที่ทำจากถั่วเหลือง และน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และก็ทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต ปกป้องการเกิดมะเร็ง ยิ่งกว่านั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังยังช่วยให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่น
โดยดังนี้น้ำมันนวดสมุนไพรแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ และคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้งาน

10
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
ฝรั่ง

ชื่อสมุนไพร  ฝรั่ง
ชื่ออื่นๆ/ ชื่อแคว้น มะก้วย  มะก้วยกา มะกา (เชียงใหม่) , มะปั่น (ลำปาง) , บักสีดา (อีสาน) , สีดา (จังหวัดนครพนม) จุ่มโป่ (สุราษฎร์) , ชมพู่ (จังหวัดปัตตานี) , ยามู ,คุณย่าหมู (ภาคใต้) ยะมูบุเตบันยา (นาราธิวาส , มลายู) , ยะริง (ละว้า) , ฮวงเจี๊ยะหลิ่วกังซิวก้วยแปะจีฉิ่ว (จีน)
ชื่อสามัญ  Guava
ชื่อวิทยาศาสตร์  Psidium guajava Linn
วงศ์  MYRTACEAE
ถิ่นกำเนิด ฝรั่งคือผลไม้ที่มีบ้านเกิดเมืองนอนหรือเป็นพืชประจำถิ่นของเมริกาเขตร้อน De Candolle เชื่อว่าอยู่ระหว่างประเทศเม็กซิโก รวมทั้งเปรู รวมถึงหมู่เกาะอินดีสตะวันตกด้วยชาวประเทศสเปนนำจากฝั่งแปซิฟิคไปยังประเทศฟิลิปปินส์ และก็โปรตุเกสนำจากฝั่งตะวันตกไปยังอินเดีย สำหรับในประเทศไทยนั้น คาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระท้องนารายณ์มหาราช ปัจจุบันเป็นพืชมีขึ้นทั่วๆไปในเขตร้อนแล้วก็ครึ่งร้อน ปลูกเป็นไม้ผลตามบ้าน ตามสวนทั่วไป
ลักษณะทั่วไป ฝรั่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อมสูง 5-10 เมตร ลำต้นกิ่งไม้มีเนื้อไม้เหนียวแข็งดี เปลือกต้นเรียบมีเหลืองอ่อนออกเทา รวมทั้งมีรอยลอกออกเป็นแผ่นๆก้านอ่อนมีลักษณะสี่เหลี่ยม มีขนสีขาวๆสั้น ก้านแก่ ขนหล่นไปหมด ยอดอ่อนมีขนสีขาวสั้นๆปกคลุม ใบเป็นใบผู้เดียวออกตรงกันข้ามกันมีน้อยที่ออกเป็นวง (ที่ข้อเดียวกันออกเกินกว่า 2 ใบ) ใบรูปไข่ยาว 5-12 ซ.ม. หรือกว้าง 3-5 เซลเซียสม. ขยี้ใบดมดูเหมือนจะมีกลิ่นหอมสดชื่น ใบบางเหมือนแผ่นหนัง ปลายใบมนหรือแหลมสั้น ฐานใบเบาๆขยายแหลมออกมายังกึ่งกลางใบ ขอบของใบเรียบข้างหลังใบมีสีเขียวแก่ มีรอยเส้นใบ (บุ๋มลงไปน้อย) ท้องใบมีขนสั้นๆสีขาวนุ่ม รวมทั้งมีเส้นใบเป็นรอยนูนออกมา มีเส้นใบ 7-11 คู่ ก้านใบยาว 4 ซม. ดอกอาจออกเป็นช่อ 1-4 ดอก มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวกลมมน กลีบดอกไม้สาวบางๆหลุดตกง่าย ยาว 2-2.5 เซลเซียสมัธยม มีเกสรตัวผู้มากมาย มีก้านเกสรตัวผู้สีขาวยาวพอๆกับกลีบดอกไม้ มีอับเรณูสีเหลืองอ่อน มีก้านเกสรตัวเมีย 1 อันยาวพุ่งขึ้นมาสูงยิ่งกว่าก้านเกสรตัวผู้ รังไข่อยู่ด้านล่างมี 5 ห้องและลักษณะทรงกลม แล้วก็มีกลีบเลี้ยงเหลือติดอยู่กับปลายผล ผลทรงกลม  มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวราว 3-15 ซ.ม. เนื้อผลส่วนใหญ่มีสีเหลือง ขาว หรือชมพู มีกลิ่นหอมสดชื่น เมล็ดแข็ง เป็นรูปไตมีมากมาย ขนาดเมล็ด 0.3-0.5 เซนติเมตร สีขาวอ่อน พบได้บ่อยปลูกตามบ้านหรือสวนทั่วไปเอาผลไว้กินหรือขาย
การขยายพันธุ์    สามารถเติบโตเจริญในทุกภาวะดิน และทนต่อความแล้ง แล้วก็น้ำขังได้น้อย แต่โดยปกติมักชอบเติบโตเจริญในดินร่วนซุยผสมทราย ที่มีภาวะพื้นที่มีการระบายน้ำดี สามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 1 ปีข้างหลังปลูก ผลสามารถเก็บได้ในตอน 4-5 เดือน ข้างหลังติดดอก  โดยธรรมดาจะได้ผลได้ในช่วงปลายฤดูแล้งถึงต้นฤดูฝนเป็นช่วงมี.ค.-เดือนมิถุนายน
                สำหรับการขยายพันธุ์ฝรั่งสามารถทำเป็นหลายแนวทาง ดังเช่นว่า การปลูกด้วยเมล็ด การทาบกิ่ง การตำหนิดตา การปักชำ แต่ว่าแนวทางที่นิยมมากที่สุด คือ การตอนกิ่ง
การเตรียมดิน และก็การเตรียมแปลง สำหรับในการปลูกฝรั่งนั้น สามารถทำได้ 2 รูปแบบตามสภาพพื้นที่ เป็น

  • พื้นที่ดินเหนียว น้ำหลากขังง่าย และก็มีระบบระเบียบน้ำมากเกินเพียงพอ ให้กระทำขุดร่องลุกประมาณ 1 เมตร กว้าง 1-2 เมตร เพื่อเป็นแนวร่องสำหรับเพื่อการให้น้ำ การเตรียมแปลง รวมทั้งการปลูกไว้ในรูปแบบนี้พบได้ทั่วไปในพื้นที่ลุ่มภาคกลางเป็นส่วนใหญ่
  • พื้นที่ทั่วไปที่มีระบบน้ำน้อยเกินไป สามารถปลูกเอาไว้ในแปลงโดยไม่ยกร่องหรือการชูร่องสูงราวๆ 30 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างร่องราวๆ 3-4 เมตร ทั้งนี้ ให้กระทำไถดะ 1 ครั้ง เพื่อตากดิน และกำจัดวัชพืช รวมทั้งไถแปร 1 ครั้ง โดยเว้นตอนห่างราว 1-2 อาทิตย์ จากนั้นทำไถชูร่อง
ส่วนวิธีการปลูกฝรั่ง มีดังนี้

  • ใช้กิ่งประเภทจากการตอนหรือการปักชำ
  • ขุดหลุมปลูก กว้าง ลึก ขนาด 50×50 เซนติเมตร แต่ละหลุมห่างกันโดยประมาณ 3 เมตร ระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 3-4 เมตร หรือตามขนาดระยะห่างของร่อง
  • รองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ราว 0.5 กก./หลุม หรือขนาด 1 พลั่วตัก พร้อมคลุกดินผสมก้นหลุมให้สูงโดยประมาณ 1 ฝ่ามือ ดังนี้บางทีอาจผสมปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 ในอัตรา 1 กำมือ/หลุมก็ได้
  • นำกิ่งพันธุ์ จากการทำหมันหรือการปักชำลงหลุมปลูก โดยกลบดินสูงเหนือปากหลุมเล็กน้อย ทั้งนี้ควรจะให้ดินกลบเหนือเขตรากสูงราว 10-15 ซม.
  • ใช้หลักไม้ปักหลุม แล้วก็ผูกเชือกยึดลำต้น
  • เมื่อปลูกเสร็จควรจะให้น้ำให้ชุ่มโดยทันที


การให้น้ำ เริ่มให้น้ำครั้งแรกข้างหลังการปลูกเสร็จให้เปียกชุ่ม ต่อจากนั้น ให้น้ำทุก 2 ครั้ง/วัน ยามเช้า-เย็น จนกระทั่งต้นฝรั่งตั้งตัวได้ โดยอาจเลือกใช้ระบบการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพ จากนั้นอาจทำการให้น้ำลดลง ขึ้นกับสภาพอากาศ แล้วก็ความชุ่มชื้นของดิน ซึ่งไม่ควรปลดปล่อยให้ดินแห้ง ขาดน้ำ โดยเฉพาะในช่วงติดผล แต่ว่าในตอนติดดอกไม่ควรให้น้ำมากมายซึ่งในตอนนี้แค่เพียงระวังไม่หน้าดินแห้งก็ เพียงพอ
                โดยสายพันธุ์ของฝรั่งยอดนิยมในตอนนี้ ดังเช่น จำพวก แป้นสีทอง , พันธุ์กิมจู , ประเภทกลมสาลี่ , จำพวกไร้เม็ด , ชนิดเวียดนาม เป็นต้น
ส่วนประกอบทางเคมี
quercetin, quercetin-3-arabinoside , quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin),                                    quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin),                             quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) แล้วก็ quercetin 3-O gentiobioside , Tannin ในผิวฝรั่งเมื่อนำมาสกัดน้ำมันระเหย เจอสารต่างๆดังเช่น 1,8-cineole  ,   a-copaene,  trans-caryophyllene  , humulene  ,  a-amorphene ,    nerolidol   , caryophyllene oxide ,  epigiobulol, longitorenedehyde , aromaden dendrene , helifdenolC ฯลฯ  รวมทั้งสำหรับค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ (165 กรัม) เป็น

  • พลังงาน 112 กิโลแคลอรี
  • ใยอาหาร 8.9 กรัม
  • โปรตีน 4.2 กรัม
  • ไขมัน 1.6 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม
  • วิตามินเอ 1030 IU
  • วิตามินซี 377 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 0.1 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 0.1 มก.
  • วิตามินบี 3 1.8 มก.
  • กรดโฟลิก 81 ไมโครกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 30 มก.
  • ธาตุฟอสฟอรัส 66 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม
  • ธาตุโพแทสเซียม 688 มก.
  • ธาตุทองแดง 0.4 มิลลิกรัม ที่มา : Wikipedia


ผลดี/สรรพคุณ ฝรั่งคือผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก ลดหุ่น หรือคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะมีผลให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้อง ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้สมควร รวมทั้งยังช่วยล้างพิษโดยรวมได้อีกด้วย จึงมีผลทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส โดยฝรั่งจัดคือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกประเภท และก็ยังมีวิตามินซีสูขี้งกว่าส้มถึง 5 เท่า และยังนิยมนำฝรั่งไปดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเป็นต้นว่า คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
ฝรั่ง
ดอง ฝรั่งแช่บ๊วย พายฝรั่ง และของหวานอีกหลายประเภท รวมถึงประยุกต์ใช้ทำเป็นยาแคปซูลแก้ท้องร่วงจากใบฝรั่ง ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ซึ่งใส่แคปซูลละ 250 มก.
                นอกจากนั้นน้ำมันหอมระเหยในใบฝรั่งยังมีการใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมของกิน ยกตัวอย่างเช่น หมากฝรั่ง ทอฟฟี่ รวมถึงนำมาผสมหรือแต่งกลิ่นในน้ำยาบ้วนปากได้อีกด้วย ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของฝรั่งนั้นมีดังนี้ แบบเรียนยาไทยกล่าวว่า เปลือกต้น, ราก รสฝาด อ่อนโยน ใช้แก้แผลมีพิษ แก้ปวดฟัน โรคลักปิดลักเปิด แก้อาการเลือดกำเดา แก้น้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง ใบรสฝาดเปียก สุขุมไม่มีพิษ ใช้เป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเดิน บิดเรื้อรัง ลมพิษ ผื่นคัน บาดแผลที่มีเลือดออก ผลที่ยังไม่สุก รสเปรี้ยว ฝาดอ่อนโยน ใช้แก้ท้องเดิน บิด ขจัดกลิ่นปาก แก้ปวดฟัน ผลหมูสหวานหอมใช้เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ใช้ห้ามเลือดต่อต้านการอักเสบ ลดน้ำตาลในเลือด โดยใช้เปลือกแห้งหนัก 10 กรัม ต้มน้ำกิน ใบแห้งหนัก 3-5 กรัม ถ้าเกิดเป็นใบสดใช้หนัก 15-30กรัม ต้มน้ำกิน ถ้าใช้ด้านนอกต้มเอาน้ำชะล้างหรือตำพอก ผลที่ยังไม่สุก แห้งหนัก 6-10 กรัม ต้มน้ำกิน
แบบอย่าง/ขนาดวิธีใช้

  • แก้ลำไส้อักเสบ บิด ใช้ใบสด 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • แก้กระเพาะลำไส้อักเสบทันควันแล้วก็ท้องร่วง ที่เกิดขึ้นมาจากการย่อยไม่ดี ใช้ใบแห้งหนัก 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน
  • แก้รอยแผลมีเหตุที่เกิดจากการหกล้มหรือกระทบกระแทกหรือรอยแผลมีเลือดออก ใช้ใบสดตำพอกแผลข้างนอก
  • แก้ปวดฟัน ใช้เปลือกรากผสมน้ำส้มสายชูต้มเอามาอมแก้ปวดฟัน
  • แก้เด็กเป็นแผลเล็กแผลน้อยเรื้อรัง ใช้เปลือก ราก ต้มร่วมกับขนไก่ เอามาชำระล้างรอยแผล
  • แก้ผิวหนังเป็นผื่นผื่นคัน ใช้เปลือกต้นสดและใบต้นเอาน้ำชำระล้างรอบๆที่เป็น
  • แก้ท้องร่วง ใช้ใบหรือผลดิบ ต้มรับประทานต่างชา (ใบแห้ง 5 กรัม ใส่น้ำ 100 มิลลิลิตร)
  • ใช้สวนล้างช่องคลอดข้างหลังคลอด ใช้น้ำสุกจากใบสดอุ่นๆสวนล้าง
  • ใช้เพื่อการดับกลิ่นปาก ด้วยการนำใบสด 3-5 ใบมาเคี้ยวแล้วคายกากทิ้ง
  • ช่วยรักษาอาการเสียงแห้ง แก้คออักเสบโดยการใช้ผลที่ตากแห้งต้มน้ำกิน
  • ยอดอ่อนๆปิ้งไฟให้เหลืองกรอบ ชงน้ำกินแก้ท้องเสีย บิด ใบสดบดอมขจัดกลิ่นยาสูบ เหล้า แล้วก็กลิ่นปากเจริญ
การเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์ลดการบีบตัวของไส้ แก้ท้องเดิน             จากการค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางยาของฝรั่งพบว่าการให้ยาเม็ดแคปซูลใบฝรั่งทีละ 500 มก. ทุก 6 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 วัน กับคนไข้ที่เป็นโรคอุจจาระร่วง 122 คน สามารถลดปริมาณครั้งของการถ่ายอุจจาระ ระยะเวลาที่ถ่ายอุจจาระ และก็จำนวนน้ำเกลือที่ให้ชดเชยได้  การให้ยาเม็ดแคปซูลฝรั่งขนาด 500 มิลลิกรัม (ที่มีสารฟลาโวนอยด์ 1 มก./แคปซูล 500 มิลลิกรัม)  ทุก 8 ชั่วโมง ตรงเวลา 3 วันในคนไข้ที่มีอาการท้องเดิน ปวดท้อง จำนวน 50 คน จะสามารถลดการบีบตัวของลำไส้รวมทั้งลดช่วงเวลาเจ็บท้องได้   การให้ยาต้มของฝรั่งในคนป่วยเด็กที่เป็นโรคลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) 62 คน ทำให้อาการดีขึ้นข้างใน 3 วัน ช่วงเวลาท้องร่วงสั้นลง และไม่พบเชื้อ Rota virus ในอุจจาระมากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม
                 สารสกัดใบฝรั่งด้วยคลอโรฟอร์ม เฮกเซน เมทานอล รวมทั้งน้ำ สามารถลดการเคลื่อนไหว แล้วก็การยุบเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาและหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้มีการเคลื่อนไหวมากเพิ่มขึ้นด้วยอะเซทิลโคลีน  สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลจำนวนร้อยละ 50 สามารถยับยั้งการหดตัวของลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูเม้าส์ที่ถูกเหนี่ยวนำให้หดตัวด้วยกระแสไฟฟ้า อะเซทิลโคลีน แล้วก็แบเรียมคลอไรด์ได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถยั้งอาการท้องร่วงในหนูเม้าส์ที่ถูกโน้มน้าวให้กำเนิดอาการท้องเสียด้วยน้ำมันละหุ่ง โดยฝรั่งจะไปเพิ่มการดูดซึมน้ำในไส้และก็ลดการบีบตัวของไส้   สารสกัดด้วยน้ำของใบฝรั่งสดสามารถยั้งอาการท้องเสียได้ โดยลดปริมาณครั้งของการอุจจาระในหนูซึ่งถูกเหนี่ยวนำให้เกิดอาการท้องเสียด้วยยา microlax ได้
                 ส่วนสกัดของสารกรุ๊ป polyphenolic, saponin และก็ alkaloid จากใบฝรั่ง สามารถยั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กของหนูตะเภาที่เหนี่ยวนำให้หดเกร็งด้วยอะเซทิลโคลีนแล้วก็โปแตสเซียมคลอไรด์ได้   สาร quercetin แล้วก็ quercetin-3-arabinoside จากใบฝรั่ง สามารถต่อต้านการหดตัวของลำไส้เล็กที่ถูกรั้งนำด้วยอะเซทิลโคลีน ทำให้ไส้มีการเคลื่อนน้อยลง  ยิ่งไปกว่านี้สาร quercetin ในใบฝรั่งยังสามารถยั้งการหดเกร็งของลำไส้เล็กในหนูแรทและก็หนูตะเภาซึ่งรั้งนำให้กำเนิดอาการหดเกร็งด้วยสารละลายโปตัสเซียม  อะเซทิลโคลีน แบเรียมคลอไรด์ ฮีสตามีน และก็ซีโรโทนินได้ และสามารถลดความสามารถสำหรับเพื่อการซึมผ่านของๆเหลวของเส้นเลือดฝอยรอบๆท้องซึ่งมีผลช่วยรักษาอาการท้องเสีย  สาร quercetin 3-O-b-L-arabinoside (guajavarin), quercetin 3-O-b-D-glucoside (isoquercetin), quercetin 3-O-b-D-galactoside (hyperin), quercetin 3-O-b-L-rhamnoside (quercitrin) และก็ quercetin 3-O-gentiobioside จากใบฝรั่ง สามารถลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กหนูเม้าส์ได้   สาร asiatic acid จากใบฝรั่งส่งผลทำให้กล้ามเนื้อของลำไส้เล็กส่วนปลายของกระต่ายคลายตัว  สารสกัดผลฝรั่งดิบด้วยเมทานอลมีฤทธิ์ต้านการหลั่งอะเซทิลโคลีนในลำไส้เล็กของหนูแรทและก็หนูตะเภาได้ แต่มีฤทธิ์น้อยกว่าอะโทรไต่ โดยฝรั่งส่งผลทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวน้อยลง ทำให้รักษาอาการท้องเสียได้    สารสกัดฝรั่ง (ไม่ระบุส่วน) สามารถลดการบีบตัวของลำไส้เล็กของหนูแรทได้
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียมีการเรียนรู้การต้านเชื้อแบคทีเรียหลายรายงาน เช่น สารสกัดเอทานอลของฝรั่ง สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli, Salmonella enteritidis, Shigella flexneri ได้  สารสกัดน้ำ ความเข้มข้น 10-5 มคลิตร/มิลลิลิตร ทดลองในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ  พบว่าสามารถยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Shigella dysenteriae ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคบิดได้ สารสกัดเปลือกต้น
ด้วย 70% เอทานอล  ความเข้มข้น 250 มก./มล. ทดสอบในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ พบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุที่ส่งผลให้เกิดโรคอุจจาระตกเป็นStaphylococcus aureus, Vibrio cholerae แล้วก็ V. parahaemolyticus แต่ไม่เป็นผลต่อเชื้อ E. coli, Shigella  flexneri, Salmonella typhimurium สารสกัดราก กิ่ง รวมทั้งใบฝรั่งด้วย 50% เอทิลอัลกอฮอล์  ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ  พบว่าสามารถยั้งเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. dysenteriae, Sh. flexneri, S. typhimurium ที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella enteritidis สารสกัดกิ่งฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ อัตราส่วน 1:1 ความเข้มข้น 50 มคลิตร สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae, Sh. flexneri (ซึ่งนำมาซึ่งโรคบิด) E. coli (แบคทีเรียในไส้) S. typhimurium (กระตุ้นให้เกิดโรคไข้รากสาดน้อย) แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ S. enteritidis สารสกัดทิงเจอร์ของฝรั่ง สามารถยั้งเชื้อแบคทีเรีย V. chlorea ที่เป็นต้นเหตุของอหิวาต์ ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้แต่สำเร็จปานกลาง  น้ำมันหอมระเหยของใบฝรั่ง สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus แม้กระนั้นไม่มีผลต่อเชื้อ Bacillus subtilis, E. coli, S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้  สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำมันปิโตรเลียมอีเทอร์ ความเข้มข้น 1,000 มคก./มล. สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Enterococcus faecalis ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แต่ว่าไม่เป็นผลต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium, S. aureus สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำ ความเข้มข้น 20 มิลลิกรัม/มล. พบว่าสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย S. dysenteriae 1 (กระตุ้นให้เกิดโรคบิด) แล้วก็ V. chlorea (ทำให้เกิดอหิวาตกโรค) ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งขนาดความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 1.25, 5 มิลลิกรัม/มล. ตามลำดับ
สารสกัดผลดิบของฝรั่งด้วยเมทานอล  ในขนาด 50,100, 300 มก./กิโลกรัม สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Sh. dysenteriae 1, Sh. dysenteriae 2, Sh. dysenteriae 4, Sh. dysenteriae 8 และ V. chlorea 1350 ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 100-200 มคกรัม/มล. สารสกัดหยาบคายของใบฝรั่ง สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Vibrio ที่แยกได้จากกุ้งว่าวจุฬาดำที่เป็นโรค 23 สายพันธุ์ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 1.25-5.00 มก./มิลลิลิตร สารสกัดใบฝรั่งด้วยอะซีโตน และก็ 95% เอทานอล สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย Salmonella B, S. newport, S. typhimurium, Sh.  flexneri ยิ่งไปกว่านี้สารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ยังสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้อีกด้วย  สารสกัดใบ ลำต้นฝรั่งด้วยน้ำ สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli, Sh. flexneri, S. aureus แต่ว่าไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. newport แล้วก็ S. typhimurium ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อ
สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล  สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ ซึ่งความเข้มข้นต่ำสุดที่ยั้งได้ (MIC) มีค่าเท่ากับ 10 มก./วัน แม้กระนั้นสำเร็จไม่แน่นอนต่อเชื้อ E. coli, S. typhimurium สารสกัดใบฝรั่งด้วย 95% เอทานอล ความเข้มข้น 1,000 มคก./มิลลิลิตร พบว่าสามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรียที่นำไปสู่โรคอุจจาระหล่น ยกตัวอย่างเช่น Salmonella D, Sh. dysenteriae 1, Sh. flexneri 2A, Sh. flexneri 4A  ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้  แม้กระนั้นไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. typhimurium type 2, Shigella bodyii, Sh. bodyii 5, Sh. dysenteriae 2, Sh. flexneri 3A, Sh. sonnei  ส่วนสกัดแทนนินจากใบฝรั่ง ความเข้มข้น 85, 95, 95, 100, 110 มคก./มิลลิลิตร สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย Sh. flexneri, S. enteritidis, S. aureus , Escherichia piracoli, E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ เป็นลำดับ    สารสกัดใบฝรั่งด้วยเมทานอล  สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Salmonella spp. ได้ 2 สายพันธุ์  รวมทั้งต้านทานเชื้อ Sh.  flexneri, Sh. virchow, Sh. dysenteriae แล้วก็เชื้อ E. coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอล:น้ำ(1:1)รวมทั้งอะซีโตน สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย E. coli ที่เป็นสาเหตุของโรคอุจจาระตกได้ สารสกัดลำต้นฝรั่งด้วย 95% เอทานอล สามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย S. newport แล้วก็ S. typhimurium, Sh. flexneri ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ แม้กระนั้นไม่มีผลต่อเชื้อ Salmonella B, S. aureus   น้ำคั้นจากผลฝรั่ง ไม่สามารถที่จะต้านเชื้อแบคทีเรีย Bacillus typhosus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไทฟอยด์ได้ สารสกัดส่วนที่อยู่เหนือดินด้วยอัลกอฮอล์ และน้ำ (1:1) ความเข้มข้นมากกว่า 25 มคก./มิลลิลิตร ไม่สามารถที่จะต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย B. subtilis, E. coli, S. typhosa
มีการทำการศึกษาเรียนรู้โดย ปัญจางค์ ธนังเราล และคณะ ในคนเจ็บ 122 คน ที่เป็นโรคอุจจาระตก เป็นชาย 64 คน และหญิง 58 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 16-55 ปี ศึกษาวิจัยเทียบโดยกระบวนการสุ่มตัวอย่าง โดยนำใบฝรั่งอบแห้งแล้วบดเป็นผุยผง ใส่แคปซูล ขนาด 250 มก. ลักษณะเดียวแล้วก็ขนาดเดียวกับ tetracyclin รวมทั้งบริหารการรับประทานยาเช่นกันหมายถึง500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชม. เป็นเวลา 3 วัน ทั้งคู่กรุ๊ป พบว่าใบฝรั่งสามารถลดจำนวนอุจจาระ ช่วงเวลาที่ถ่ายอุจจาระ และปริมาณน้ำเกลือที่ให้ตอบแทนได้
มีการศึกษาเล่าเรียนในคนเจ็บเด็ก 62 คน ที่เป็นโรคไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส (Rota virus) โดยให้กินยาต้มของฝรั่ง พบว่าอาการภายใน 3 วัน แล้วก็ระยะเวลาท้องเสียสั้นลงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ปริมาณโซเดียมและเดกซ์โทรสในอุจจาระต่ำลง และก็ผลของการตรวจอุจจาระไม่เจอเชื้อ Rota virus มากถึง 87.1% ในระหว่างที่กรุ๊ปควบคุมไม่เจอเชื้อ Rota virus 58.1% แสดงว่ายาต้มของฝรั่งมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาอาการท้องเดินในผู้เจ็บป่วยลำไส้อักเสบจากเชื้อ Rota virus ได้
ฤทธิ์ต้านการอักเสบ   จากการศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วย 70 คน ที่มีเหงือกอักเสบ พบว่าน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบฝรั่งสามารถลดการอักเสบได้ปริมาณร้อยละ 19.8 แล้วก็ลดรอยโรคที่ความร้ายแรง ได้จำนวนร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากใบฝรั่ง หลังจากที่ได้มีการใช้เป็นเวลา 3 สัปดาห์
            สารสกัดใบฝรั่งด้วยน้ำขนาด 50-800 มก./กก. เมื่อฉีดเข้าท้องพบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบแบบทันควัน  เมื่อทดลองกับอุ้งเท้าหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วยไข่ขาวสด นอกเหนือจากนี้เมื่อฉีดน้ำมันหอมระเหยจากใบฝรั่งเข้าทางท้องของหนูแรทในขนาด 0.8 มิลลิลิตร/กิโล พบว่าสามารถยั้งการอักเสบที่ถูกเหนี่ยวนำด้วยสาร carrageenan ได้
สารสกัดจากผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องของหนูแรท พบว่าสามารถยับยั้งการอักเสบของอุ้งเท้าหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบด้วยสาร carrageenan, kaolin และ formaldehyde ได้ นอกเหนือจากนี้สารสกัดผลฝรั่งด้วยเมทานอลเมื่อฉีดเข้าทางท้องของหนูเม้าส์จะสามารถยั้งการอักเสบรวมทั้งลดลักษณะการเจ็บปวดที่ถูกเหนี่ยวนำด้วย acetic acid  ได้ดีมากว่าแอสไพรินที่ให้ในขนาดเท่ากันเล็กน้อย
เมื่อนำใบฝรั่งมาหมักกับราและก็แบคทีเรียอาทิเช่น Phellinus linteus (ส่วนเส้นใย) Lactobacillus plantarum รวมทั้ง Saccharomyces cerevisiae แล้วเอามาสกัดด้วยเอทานอล พบว่าสารสกัดที่ได้มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบโดยยับยั้งการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเป็น ไนตริกออกไซด์รวมทั้ง พรอสต้าแกรนดิน อี 2 ในหลอดทดสอบ ยิ่งไปกว่านี้สารสกัดฝรั่งด้วยเอทานอลแล้วก็น้ำยังออกฤทธิ์ยับยั้งการผลิตไนตริกออกไซด์
             สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทิลอะซีเตตมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ รวมทั้งแก้แพ้โดยยั้งการตอบสนองต่อแอนติเจนที่ชักนำให้เกิดการแพ้และก็การอักเสบ
ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด                 สารสกัดใบฝรั่งด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูแรทที่ถูกชักพาให้เป็นโรคเบาหวานด้วยการฉีด alloxan เข้าเส้นเลือดดำโดยสารสกัดใบฝรั่งออกฤทธิ์ใน 2 ชั่วโมง มีฤทธิ์สูงสุดในชั่วโมงที่ 6 และก็สิ้นฤทธิ์ใน 24 ชั่วโมง
ฤทธิ์ต้านทานเซลล์ของโรคมะเร็ง      สารสกัดใบฝรั่งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง murine fibrosarcoma แล้วก็เซลล์ของมะเร็งเต้านม
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
การทดสอบความเป็นพิษ  พิษทันควัน  สารสกัดด้วยน้ำจากใบ LD50 มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 20 ก./กิโลกรัม  เมื่อให้ทางปากในหนูถีบจักรทั้ง 2 เพศ รวมทั้งมีค่ามากกว่า 5 ก./กก.  เมื่อฉีดเข้าทางท้อง สารสกัดเอทานอล (50%) จากส่วนเหนือดิน LD50 มีค่าพอๆกับ 0.188 เมื่อฉีดเข้าช่องท้องในหนูถีบจักร พิษเรื้อรัง  การให้สารสกัดน้ำจากใบทางปาก ขนาด 0.2, 2 และก็ 20 ก./กก. ทุกๆวันต่อเนื่องกันตรงเวลา 6 เดือน  พบว่าอัตราการเพิ่มของน้ำหนักตัวลดลง ในกลุ่มที่ได้รับสารสกัด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ได้รับน้ำ ในเวลาที่ไม่พบความไม่เหมือนของจำนวนอาหารที่กินในทุกกลุ่ม พฤติกรรมทั่วๆไปธรรมดาในทุกกรุ๊ป หนูเพศผู้หรูหรา ALP, SGPT (การทำงานของตับ), BUN (แนวทางการทำงานของไต) แล้วก็ WBC สูงมากขึ้น ช่วงเวลาที่ระดับของโซเดียมและคลอเลสเตอรอลในเลือดลดน้อยลง น้ำหนักของตับรวมทั้งไตมากขึ้น การตรวจทางจุลทัศนกายวิภาค พบการเปลี่ยนแปลงของไขมันรวมท

11
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ

รู้เรื่องโรคมะเร็งโรคมะเร็งเป็นยังไงมีเหตุสาเหตุ กลไกลการกำเนิดลักษณะของการมีอาการโรคมะเร็ง โรคมะเร็งที่เจอย่อยไม่ว่าจะเป็น ปากมดลูกโรคมะเร็งตับ ปอด แล้วจะคุ้มครองป้องกันได้ไหม รักษาเช่นไร
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
-คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
[/b] โรคมะเร็ง ( Cancer1 ) เจอได้ในทุกเพศทุกวัยตั้งแต่ตอนแรกเกิดไปจนถึงคนวัยชรา โดยมากจะเจอในอายุตั้งแต่ 50 ขึ้นไปส่วนในเด็กพบน้อยกว่าผู้ใหญ่ประมาณ 10 เท่า ปัจจุบันว่าคนจำนวนไม่น้อยจะเริ่มหันมาใสจิตใจในสุขภาพด้านร่างกายคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
ของตนเองกันมากเพิ่มขึ้น แต่ว่าบรรดาเชื้อโรคต่างๆก็ปรับปรุงตัวเองขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้งเหมือนกัน โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่เรียกว่าเป็นโรคยอดฮิตที่ผู้คนเป็นกันไม่น้อยเลยทีเดียวยิ่งกว่าโรคติดต่อ
โรคมะเร็งเป็น โรคของเซลล์ ที่มีการเจริญวัยอย่างไม่ปกติเปลี่ยนเป็นก้อนโรคมะเร็งซึ่งสามารถบุกรุง ทำลายเยื่อใกล้เคียงและก็กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆได้โรคซึ่ง (คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
)โรคซึ่งกำเนิดมีเซลล์เกิดมีเซลล์ผิดปกติภายในร่างกาย และเซลล์เหล่านี้มีการเจริญวัยเร็วทันใจเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นเซลล์เหล่านี้จึงเจริญก้าวหน้าแพร่กระจายและแพร่ได้ทั่วร้างกายทำให้เซลล์ธรรมดาของสมอง ไต กระดูก แล้วก็ไขกระดูก
ต้นสายปลายเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
-สำหรับต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ผู้คนต่างมีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งกันมากขึ้นมีสาเหตุจากทั้งยังปัจจัยภายใน คือ
1.ปัจจัยภายนอก
-ผู้ที่ติดโรคเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  มักเกิดในผู้ที่ไม่นิยมที่ไม่นิยมกินร้อนช้อนกลาง โดยอาจติดจากทางน้ำลายสำหรับเพื่อการรับประทานอาหารด้วยกัน
-การตำหนิดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ ในเรื่องที่ชอบรับประทานอาหารแบบดิบๆหรือกึ่งสุกกึ่งดิบ
-ผู้ที่ชอบดื่มเครื่องดือแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ แล้วก็คนที่สูบบุรีบ่อยๆ
-ผู้ที่เคยผ่านการฉายรักสีเอกซเรย์
สารอะฟลาทอกซินที่ปนเปื้อนอยู่ในของกินแล้วก็เครื่องดื่มที่พวกเรากินกันทุกๆวัน โดยยิ่งไปกว่านั้นในพวกพริกแห้ง ถั่ว
-สารก่อมะเร็งในของกินจำพวกปิ้ง ย่าง ทอด โดยยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ย่างหรือปิ้งจนถึงไหม้เกรียม หรือเนื้อที่ทอดโดยใช้น้ำมันบ่อยๆทุกวี่ทุกวัน
-สารไฮโดรคาร์บอน เป็นสารเคมีที่นำมาใช้สำหรับการถนอมอาหารอย่างไนโตซามิน ซึ่งเป็นสีย้อมผ้าที่เอามาผสมอาร
2.ปัจจัยภายใน
-คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
มีเหตุมาจากความคิดเปลี่ยนไปจากปกติในร่างกาย เป็นต้นว่า เด็กพิการโดยกำเนิด ซึ้งเป็นความไม่ปกติทางพันธุกรรม
-ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือขาดสารอาหารบางสิ่งบางอย่าง อาทิเช่น พวกวิตามินเอ หรือ ซี
ซึ่งจะเห็นได้ว่ามะเร็งส่วนมากนั้นมีเหตุมาจากปัจจัยภายใน นั้นมีความหมายว่าเราสามารถปกป้องการก่อมะเร็งได้มากพอสมควร ดังนี้ ก็ขึ้นกับความประพฤติปฏิบัติและก็ระเบียบวินัยการเลือกปฎิบัติของเราเป็นหลัก รวมทั้งวิชาความรู้ในเรื่องของสารก่อมะเร็งด้วย
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
-ไม่มีอาการเฉพาะโรคมะเร็ง แต่เป็นอาการเช่นเดียวกับการอักเสบเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่เป็นมะเร็ง โดยที่ผิดแผกแตกต่างเป็นมักเป็นอาการที่ห่วยแตกลงเรื่อยๆและก็เรื้อรัก ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อมีอาการต่างๆนานเกิน 1 – 2 สัปดาห์ จำเป็นที่จะต้องรีบพบหมอ ยังไง ก็ตาม อาการที่น่าสงสัยว่าเนมะเร็ง ได้
-มีก้อนเนื้อโตเร็ว หรือ มีแผลเรื้อรังไม่หายด้านใน 1-2 สัปดาห์ ภายหลังจากการดูแลตนเองในเบื้องต้น
-มีต่อมน้ำเหลืองโต ลูบคลำเ มักจะแข็งไม่เจ็บ รวมทั้งโตขึ้นเรื่อย
-ไฝ ปาน หูด ที่โตเร็วกว่าปกติ หรือเป็นแผลแตก
-หายใจ กรือ มีกลิ่นปากรุนแรงจากที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
-เลือดกำเดาออกเรื้อรัง มักออกเพียงแค่ด้านเดียว (อาจออกทั้งสองข้างได้)
-ไอเรื้อรัง เรือ ไอเป็นเลือด
-มีเสมหะ น้ำลาย หรือเสมหะคละเคล้าเลือดหลายครั้ง
-อ้วกเป็นเลือด
-ปัสสาวะเป็นเลือด
-เยี่ยวบ่อย ขัดลำ ฉี่เล็ด โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
-อุจจาระเป็นเลือด  มูก หรือเป็นมูกเลือด
-ท้องผูก สลับท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
เห็ดหลินจือ
-มีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ หรือ มีเมนส์เปลี่ยนไปจากปกติ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดในวัยหมดประจำเลือดหรือข้างหลังมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
-อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่ อึดอัดท้อง โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
-จับไข้ต่ำๆหามูลเหตุไม่ได้
-จับไข้สูงบ่อยมาก หามูลเหตุไม่ได้
-จับไข้สูงบ่อยมาก หาต้นเหตุมิได้
-ผอมบางลงมากใน 6 เดือน น้ำหนักลดจากเดิมเป็น 10%
-มีจ้ำห้อเลือดง่าย หรือ มีจุดแดงเหมือนไข้เลือดออกตามผิวหนังหลายครั้ง
-ปวดศีรษะร้ายแรงเรื้อรัง หรือ แขน/โคนขาแรง หรือ ชัก โดยไม่เคยเป็นมาก่อน
-ปวดหลังเรื้อรัง และก็ปวดเยอะขึ้นเรื่อยๆอาร่วมกับ แขน/โคนขาแรง
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

สัญญาณอันตราย 7 ประการ ที่ควรรีบมาพบหมอ
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
-มีเลือดหรือสิ่งผิดปกติออกจากร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น มีตกขาวมากเหลือเกิน
-มีก้อนเลือดหรือตุ่ม เกิดขึ้นที่ใดอันดับที่หนึ่งของร่างกายและก็ก้อนนั้นโตเร็วไม่ดีเหมือนปกติ
-มีแผลเรื้อรัง
-มีการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ แตกต่างจากปกติหรือเปลี่ยนไปจากเดิม
-เสียงแหบ ไอเรื้อรัง
-กลืนอาหารตรากตรำ เบื่อข้าว น้ำหนักลด
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
-มีการเปลี่ยนของหูด ไฝ ปาน เช่น โตผิดปกติ ควรรีบมาเจอแพทย์
รายนามโรคมะเร็งที่พบได้ทั่วไป
1.มะเร็งตับ
2.โรคมะเร็งปอด
3.มะเล็งเม็ดเลือดขาว
4.โรคมะเร็งสมอง
5.มะเร็งปากมดลูก
6.มะเร็งไส้
7.โรคมะเร็งกล่องเสียง
8.มะเร็งผิวหนัง
9.มะเร็งรังไข่
10.มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
11.โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
12.มะเร็งเต้านม
13.มะเร็งกระเพาะอาหาร
14.มะเร็งกระดูก
15.มะเร็งหลอดของกิน
16.มะเล็งลิ้น
17.มะเร็งช่องปากรวมทั้งคอ
18.มะเร็งท่อน้ำดีแล้วก็ถุงน้ำดี
19.มะเร็งหลอดลม
20.มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
21.มะเร็งตับอ่อน
22.โรคมะเร็งไต
23.โรคมะเร็งไทรอย์
24.โรคมะเร็งโรงจมูก
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
-คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
[/b] จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งนั้นเป็นโรคอันตรายซึ่งสามารถปกป้องให้ไกลห่างจากโรคมะเร็งได้ ทั้งนี้ข้นอยู่กับการกระทำระเบียบวินัยของทุกคนเป็นหลักว่าจะสามารถไตร่ตรองในเรื่ออาหารกินได้มากมายน้อยแค่ไหน เนื่องจากที่มาของโรคมะเร็งโดยมากนั้นเกิดจากการทานอาหาร เราจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารซึ่งมีแต่คุณค่าและก็คุณค่าทางโภชนาการและก็ความสะอาดโดยไม่มีการแปดเปื้อนของสารเคมีต่างๆเพื่อห่างไหลกลจากโรคร้ายอย่างโรคมะเร็ง

Tags : ขายเห็ดหลินจือ,ขายเห็ดหลินจืออบแห้ง

12
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร

เห็ดหลินมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเป็นไปได้จริงหรือ?
แม้มีการค้นคว้าทดลองมากมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่อาจเป็นไปได้ของเห็ดหลินจือ
แต่ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่แน่ชัดถึงคุณลักษณะและคุณประโยชน์ที่อาจเป็นไปได้ของคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
แต่ ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่แน่ชัดถึงคุณลักษณะและประสิทธิผลด้านใดๆ ดังนั้น ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลของคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
เห็ดหลินจือ ปริมาณและวิธีการบริโภคที่เหมาะสม รวมทั้งข้อจำกัดต่างๆ และปัจจัยทางสุขภาพของตนให้ดีก่อนการบริโภค
ตัวอย่างงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือที่อาจมีผลต่อสุขภาพ
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
งานค้นคว้าหนึ่งได้ทดลองคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
หาประสิทธิผลและความปลอดภัยของการบริโภคอาหารเสริมเห็ดหลืนจือในผู้ป่วย โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จำนวน 32 ราย  ผลลัพธ์คือ เห็ดหลินจืออาจมีสรรพคุณในด้านการระงับอาการปวด คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
ปลอดภัยต่อการรับประทานเข้าสู่ร่างกายและไม่มีผลข้างเคียง อย่างไรก็ตาม กลับไม่ปรากฏผลที่มีนัยสำคัญในการต้านปฎิกิริยาออกซิเดชัน การต้านการอักเสบ หรือผลการปรับระบบภูมิคุ้มกันแต่อย่างใด
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ


คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
อย่างไรก็ตามฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งของมะเร็งของสารสกัดคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
ที่กล่าวไปนั้น ยังคงเป็นเพียงผลการทดลองในหลอดทดลองเท่านั้น ขณะนี้คณะแพทย์ศาสตร์ของมหาลัยเชียงใหม่กำลังวิจัยผลที่มีต่อผู้ป่วยโรคมะเร็วจริงๆและคาดว่าผลการศึกษานี้คงจะตีแผ่ให้เพื่อนๆได้ทราบกันในเร็วๆนี้ค่ะ แต่ตอนนี้มีรายงานการศึกษาจากประเทศจีนพบว่า เห็ดหลินจือสามารถเสริมภูมิคุ้มกันได้จริงในผู้ป่วยมะเล็กลำไส้ใหญ่ ปอด และผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งขั้นลุกลาม โดยไม่มีผลข้างเคียงและสามารถใช้ได้ติดต่อกันเป็นเวลานานได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตามในประเทศไทย การใช้เห็ดหลินจือในการรักษาโรคมะเร็งนั้นยังไม่ใช่ช่องทางหลักในการรักษา เน้นเรื่องเสริมภูมิต้านทานมากกว่า

เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย
มีการทดลองที่ทดสอบประสิทธิภาพของคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
ในด้านการเพิ่มสรรถภาพของร่างกาย โดยได้ ทดลองในผู้ป่วยโรคปวดกล้ามเนื้อไฟโปรไมอัลเจีย (Fibromyalgia)เพศหญิงจำนวน 64 ราย ตลอดระยะเวลาการทดลอง 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยบริโภคเห็ดหลินจือปริมาณ 6 กรัม/วัน จากนั้นจึงทดสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วย ผลการทดลองและวางแผนการรักษาผู้ป่วยโรคนี้ต่อไป แต่ยังคงขาดหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจน จึงควรมีการศึกษาค้นคว้าในด้าน เพื่อหาหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่แน่ชัดถึงประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อไป
จากการวิเคราะห์ผลการทดลองทางการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิด 2 เข้าร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะสนับสนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในงานวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในผู้ป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
ดังนั้นจึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิภาพของคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
ในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อป้องกันและการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป รวมทั้งให้ได้ความกระจ่างชัดดเจนในด้านดังกล่าวมากยิ่งขึ้น อันเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการรักษาป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมในการบริโรคคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
อย่างชัดเจน เนื่องประสิทธิผลและผลข้างคียงจากการบริโภค ดังนั้น ผู้บริโภค ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโรค เพราะแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่สารเคมีและส่วนประต่างอาจส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน
โดยทั่วไป ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันได้แก่
-คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพร
เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
แต่ผู้บริโภคก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรระมัดระวังในด้านปริมาณและรูปแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในภายหลัง
ในคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
มีสารอาหารที่อาจส่งผลดีต่อสุขภาพมากมาย จำพวกเส้นใยต่างๆ โปรตีนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เชเนแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสแมกนีเซียม เซเลเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี มองแดง สารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญ เย่างสเตียรอยด์(Steroids) เทอร์ปีนอยด์ (Terpenoide) นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides) ไกลโคโปรตีน (Glycoproteins)พอลิแซ็กคาไรค์ (Polrsacchayides) และสารอนุพันธ์อื่นๆโดยเฉพาะกรดอะมิโนไลซีน (Lysine) และลิวซีน (Leucine)ด้วยเหตุนี้ มีบางคนหรือในบางวัฒนธรรมนำคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
เห็ดหลินจือ
มาประกอบอาหารและแปรรูปเพื่อการบริโภค

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ

13
ขายเห็ดหลินจือ ประโยชน์เห็ดหลินจือ

14

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพรลำพันแดง

ลำพันแดงเป็นเหง้าแห้งของพืชสมุทรชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นของกินของปลาพะยูน รางถิ่นเรียบรำพัน หัวงอทะเล ว่านน้ำทะเล เนื่องจากมีใบเสมือนต้นหัวงอหรือ คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
ว่านน้ำ
หญ้าชะเงาใบยาวหรือต้นหญ้าพะยูน มีชื่อสามัญว่า sea acorus พืชที่ให้ลําพันแดงนี้กำเนิดในสมุทรรอบๆที่น้ำไม่ลึกนักต้นสูงรอบๆน้ำยาว  ๒ เมตรมีชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ว่าEnhalus acoroides (I.f) Rovle ในตระกูลHydro-Charitaceae หนอนอยู่ในประเทศไทยพบได้บ่อยที่ทะเลจังหวัดตรังจังหวัดระยองจันทบุรีและจังหวัดตราด พืชจำพวกนี้เป็นพืชใต้น้ำอายุนับเป็นเวลาหลายปีลำต้นเป็นเหง้าใหญ่แข็งมีเสี้ยนยาว ซึ่งเป็นส่วนของเส้นกลางใบเหลือติดอยู่เต็มไปหมดทำให้ มีลักษณะคล้ายกับขนหางหมูหนังสือเรียนรางเล่มก็เลยเรียกรำพันหางหมูมีรากใหญ่แข็งแรงยึดดินไว้แน่น ใบเป็นใบเลี้ยงลำพังแทงขึ้นจากเหง้ามี ๒-๗ใบเป็นแถบยาวกว้าง ๒ ถึง ๖ เซนติเมตรยาว ๗๐ ถึง ๑๔๐ ซม.มีกาบหุ้มที่โคนใบ มีเส้นใบ ๑๓-๑๔ เส้นขนานไปตามความยาวของใบ ดอกแยกเพศและก็แยก ตัวอ้นกัน ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อดอกย่อยมีขนาดเล็กมีใบประดับประดาใหญ่ ๒ ใบ ก้านดอกยาว ๕-๑๐เซนติเมตร มีดอกเพศผู้ที่ยังอ่อนอยู่จำนวนมาก ติดอยู่รอบแกนกลางข้างในเสริมแต่งเมื่อแก่จะหลุดไปบานที่ผิวน้ำจะบานกระดกลงด้านล่างมีกลีบเลี้ยงรวมทั้งกลีบดอกอย่างละ ๑ กลีบมีเกสรเพศผู้ ๓ อัน ดอกเพศภรรยามีขนาดใหญ่ กว่าก้านดอกยาวมากส่งดอกให้มาเจริญก้าวหน้าที่ผิวน้ำมีใบประดับประดาใหญ่ ๒ใบมีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกไม้อย่างละ 3๓กลีบรังไข่มี ๑ ช่องดอกเพศเมียเมื่อได้รับการผสมเกสรที่ผิวน้ำแล้วก้านดอกจะหดสั้นเข้าดึงได้ผลไปรุ่งเรืองใต้น้ำผลมีขนาดใหญ่รูปไข่ยาวราว ๗ซม. เปลือกนอกมีขนแข็งๆสีดำจำนวนหลายชิ้นข้างในมีเม็ด๘-๑๔ เม็ด

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
ตำราเรียนสรรพคุณ

ยาโบราณว่าลำพันแดงมีรสเค็มเฝื่อนฝาดมีคุณลักษณะเป็นยาขับรวมทั้งถ่ายน้ำเหลืองเสียขับลมในลำไส้ ลำพันแดงเป็นเหง้าแห้งของพืชทะเล ซึ่งเป็นอาหารของปลาพะยูน รางถิ่นเรียบรำพัน หัวงอสมุทร ว่านน้ำทะเล เนื่องจากมีใบเสมือนต้นหัวงอหรือ ว่านน้ำ ต้นหญ้าชะเงาใบยาวหรือหญ้าพะยูน มีชื่อสามัญว่า sea acorus พืชที่ให้ลําพันแดงนี้กำเนิดในทะเลบริเวณที่น้ำไม่ลึกนักต้นสูงรอบๆน้ำยาว  ๒ เมตรมีชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ว่าEnhalus acoroides (I.f) Rovle ในตระกูลHydro Charitaceae หนอนอยู่ในประเทศไทยพบได้บ่อยที่ทะเลจังหวัดตรังระยองจันทบุรีและจังหวัดตราด พืชจำพวกนี้เป็นพืชใต้น้ำอายุหลายปีลำต้นเป็นเหง้าใหญ่แข็งมีเสี้ยนยาว ซึ่งเป็นส่วนของเส้นกลางใบเหลือติดอยู่เยอะไปหมดทำให้ มีลักษณะคล้ายกับขนหางหมูตำราเรียนรางเล่มจึงเรียกรำพันหางหมูมีรากใหญ่แข็งแรงยึดดินไว้แน่น ใบเป็นใบเลี้ยงผู้เดียวแทงขึ้นจากเหง้ามี ๒-๗ใบเป็นแถบยาวกว้าง ๒ ถึง ๖ เซนติเมตรยาว ๗๐ ถึง ๑๔๐ เซนติเมตรมีกาบห่อหุ้มที่โคนใบ มีเส้นใบ ๑๓-๑๔ เส้นขนานไปตามความยาวของใบ ดอกแยกเพศรวมทั้งแยก ตัวอ้นกัน ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อดอกย่อยมีขนาดเล็กมีใบตกแต่งใหญ่ ๒ ใบ ก้านดอกยาว ๕-๑๐เซนติเมตร มีดอกเพศผู้ที่ยังอ่อนอยู่เยอะแยะ ติดอยู่รอบแกนกลางภายในแต่งแต้มเมื่อแก่จะหลุดไปบานที่ผิวน้ำจะบานกระดกลงล่างมีกลีบเลี้ยงและก็กลีบอย่างละ ๑ กลีบมีเกสรเพศผู้ ๓ อัน ดอกเพศภรรยามีขนาดใหญ่ กว่าก้านดอกยาวมากมายส่งดอกให้มารุ่งเรืองที่ผิวน้ำมีใบเสริมแต่งใหญ่ ๒ใบมีกลีบเลี้ยงและกลีบอย่างละ 3๓กลีบรังไข่มี ๑ ช่องดอกเพศเมียเมื่อได้รับการผสมเกสรที่ผิวน้ำแล้วก้านดอกจะหดสั้นเข้าดึงให้ผลไปเจริญรุ่งเรืองใต้น้ำผลมีขนาดใหญ่รูปไข่ยาวราว ๗ซม. เปลือกมีขนแข็งๆสีดำไม่น้อยเลยทีเดียวภายในมีเม็ด๘-๑๔ เมล็ดตำราเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่าลำพันแดงมีรสเค็มเฝื่อนฝาดมีคุณลักษณะเป็นยาขับและก็ถ่ายน้ำเหลืองเสียขับลมในลำไส้

Tags : สมุนไพร

15

คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ
สมุนไพรกำลังกระบือ

ชื่อท้องถิ่นอื่น  ควายเจ็ดหัว  กำลังควาย  ลิ้นกระบือ (ภาคกลาง) กะบือ (ราชบุรี) ใบท้องแดง (จันทบุรี)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Excoecaria cochinchinensis Lour.  var.  cochinchinensis
ชื่อพ้อง Excoecaria bicolor (Hassk) Zollex Hassk.
ชื่อวงศ์  EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ Kamlang kra bue.
ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์
ไม้พุ่ม (ExS) สูงประมาณ 70-150 เซนติเมตร ทุกส่วนมียางขาวเสมือนนม กิ่งเรียวเล็ก เปลือกสีแดงอมม่วงใบ เป็นใบคนเดียว ออกเป็นคู่ตรงกันข้ามกันหรือเรียงสลับ ลักษณะใบรูปขอบขนานหรือขอบขนานปนไข่กลับ โคนใบแหลม ปลายใบแหลมเป็นติ่งสั้นๆขอบใบหยักห่างๆเส้นใบ 12-13 คู่ ใบอ่อนสีแดงผิวเป็นเงา ใบแก่ข้างบนสีเขียว ด้านล่างสีแดงอมม่วง ก้านใบยาว 0.5-1 ซม. หูใบเป็นรูปหอกปลายแหลม
ดอก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบและก็ที่่ยอด มีอีกทั้งดอกเพศผู้ เพศภรรยา และก็ดอกสมบูรณ์เพศ บางครั้งอาจจะอยู่บนต้นเดียวกันหรือไม่เหมือนกันก็ได้ ดอกเพศผู้และดอกสมบูรณ์เพศช่อยาวราวๆ 2 เซนติเมตร ใบตกแต่งสามเหลี่ยม ปลายเรียวแหลม กลีบรองกลีบดอกไม้ 3 กลีบ รูปยาวแคบ ปลายแหลม ดอกเพศภรรยา กลม มักจะออกทีละ 3 ดอก ใบเสริมแต่งเสมือนดอกเพศผู้ ก้านดอกสั้นมาก กลีบรองกลีบดอกไม้ 3 กลีบ รูปไข่ ปลายแหลม ขอบหยักเล็ฏน้อย ดอกมีสีเหลืองอมเขียวขนาดเล็กออกดอกตลอดปี ผล เป็นชนิดแก่แล้วแห้ง รู)ร่างค่อนข้างจะกลม ไม่มีเนื้อ มี 3 พู เมื่อแก่แตกเป็น 3 ส่วน

นิเวศวิทยา
เป็นไม้ในเขตร้อน มีถิ่นเกิดแถบอินโดจีน นิยมนำมาปลูกทั่วไปเป็นไม้ประดับ
การปลูกและก็เพาะพันธุ์                                   
สามารถเจริญวัยเจริญในดินร่วนปกติ ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง หรือ การตอนกิ่ง
ส่วนที่ใช้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมแล้วก็สรรพคุณ
ลำต้น รสร้อนเฝื่อน ยางจากลำาต้นเป็นพิษมากมาย ใช้สำหรับในการเบื่อปลา
ใบ  รสร้อนเฝื่อนฝาดขม รักษาโรคที่เกี่ยวกับความไม่ปกติของระบบเลือดบางจำพวก ชาวชวาใช้ใบโขลกเป็นยาพอกห้ามเลือด ตำรายาหมอแผนไทยนำใบตำผสมกับสุรากลั่นคั้นเอาน้ำแก้สันนิบาตหน้าเพลิง ยาขับเลือดเสียแล้วก็ขับน้ำคาวปลาในสตรีหลังคลอดบุตร แก้อักเสบรอบๆปากมดลูก
การใช้และจำนวนที่ใช้

  • ขับน้ำคร่ำหลังคลอด ขับเลือดเน่า ขับระดู โดยใช้ใบสด 10-15 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ตำให้ถี่ถ้วน ผสมกับเหล้าโรงเล็กน้อย คั้นเอาน้ำค่อยๆจิบ ตอนเช้า-เย็น
ข้อควรรู้
ไม่สมควรใช้ในสตรีที่มีครรภ์ เพาะถ้าใช้ในบริมาณที่มาก อาจส่งผลให้แท้งได้
ใบสดต้นควายเจ็ดตัว สามารถเอาไปใช้ผลดีทำเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ได้อีกด้วย เพราะเหตุว่ามีสีแดงสดใส

Tags : สมุนไพร

หน้า: 1 2
ร่วมขับเคลื่อนโดย