คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสีเสียดชื่อสมุนไพร สีเสียดชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน สีเสียดเหนือ ,สีเสียดไทย (ภาคกลาง),สีเสียด,ขี้เสียด,สีเสียดเหลือง(ภาคเหนือ),สีเสียดแก่น(จังหวัดราชบุรี),สะเจ(ไทยใหญ่)ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia catechu (L.f.) Willd.ชื่อสามัญ Black Catechu ,Catechu Tree, Cutch tree,Acacia catechu, Cutchตระกูล LEGUMINOSAE- MIMOSACEAEบ้านเกิดเมืองนอนสีเสียดเสียดเป็นพืชที่มีบ้านเกิดเมืองนอนในทวีปเอเชียตั้งแต่ ตะวันตกของปากีสถาน ศรีลังกาประเทศอินเดียไปจนกระทั่งประเทศพม่าจีน,ไทยและประเทศต่างๆในรอบๆห้วงมหาสมุทรอินเดีย ต่อมามีการกระจายพันธุ์ไปในประเทศต่างๆในบริเวณใกล้เคียง สำหรับในประเทศไทยมักขึ้นกระจัดกระจายตามป่าโปร่งแล้วก็ป่าละเมาะ บนที่ราบ แล้ง โดยสามารถขึ้นเป็นกรุ๊ปๆบนพื้นที่ชำรุดที่มีภาวะดินชั่วและมีก้อนกรวดหินปนเป มีการระบายน้ำดี เป็นพืชพันธุ์ไม้ที่ถูกใจแสง แข็งแรงต่อภาวะแล้ง สามารถแตกหน่อได้อย่างเร็ว
ลักษณะทั่วไปสีเสียดสีเสียดจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดโปร่ง ตามลำต้นแล้วก็กิ่งมีหนามแหลมโค้งออกในลักษณะเป็นคู่ เปลือกเป็นสีเทาคล้ำหรือสีเทาอมน้ำตาลขรุขระแตกล่อนเป็นแผ่นยาว แก่นสีน้ำตาลแดง
ใบ เป็นแบบใบประกอบแบบขนสองชั้น เรียงสลับ ช่อใบแขนงเรียงตรงกันข้ามกัน 10-20 คู่ ใบย่อย 30-50 คู่ เรียงตรงกันข้าม ใบรูปแถบ กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ยาว 4-7 มิลลิเมตร ปลายใบมน โคนใบเบี้ยว ใบเกลี้ยง หรือมีขนบางส่วนเส้นแขนงใบข้างละ 6-7 เส้น ก้านใบหลักยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร มีขน
ดอกออกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดเหมือนช่อหางกระรอกตามซอกใบรวมทั้งปลายกิ่ง ช่อยาว 5-9 เซนติเมตร ดอกย่อยขนาดเล็ก สีขาวนวลหรือสีเหลืองอ่อน กลีบดอก 5 กลีบ ยาว 0.2-0.3 ซม เกสรเพศผู้เยอะแยะ เป็นเส้นเล็กสีขาว ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-3 มิลลิเมตร มีกลิ่นหอม
ผลออกเป็นฝักแห้งแตก ฝักแบนรูปขอบขนานหัวด้านหลังแหลม ยาว 5-10 เซนติเมตร ฝักแก่สีน้ำตาลคล้ำวาว เม็ด มี 3-7 เมล็ดต่อฝัก ลักษณะแบน สีน้ำตาลอมเขียว
แก่นไม้ มีสีแดงเข้มถึงน้ำตาลปนแดง เป็นมันเลื่อม เศษไม้สน เนื้อแน่น แข็งเหนียว ส่วนแก่นของต้นมีสีน้ำตาบแดง รวมทั้งทนทาน เลื่อยผ่า ตบแต่งได้ยาก
การขยายพันธุ์สีเสียดคุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสีเสียด
สามารถเพาะพันธุ์ได้ 2 วิธี เป็น
แบบอาศัยเพศ ใช้เม็ดเพาะในแปลงเพาะ โดยการทำการเก็บฝักแก่จากต้น โดยจะสังเกตว่าฝัหมีสีน้ำตาลคล้ำเป็นมัน นำไปตากแดดให้แห้ง 2-3 วัน ฝักจะแตกอ้าตามรอยตะเข็บข้างๆเม็ดแก่จะมีสีน้ำตาลอมเขียว เป็นเงา แล้วนำเมล็ดไปเพาะในแปลงเพาะ ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์การงอกโดยประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ และก็เมล็ดจะใช้เวลาสำหรับเพื่อการแตกออก 10 วัน ก็เลยย้ายชำกล้าลงถุงพลาสติกที่ได้ตระเตรียมดินไว้แล้ว แล้วหลังจากนั้นดูแลกล้าโดยประมาณ 4-5 เดือน ก็เลยนำไปปลูกภายในพื้นที่ที่ต้องการต่อไป สำหรับในการเพาะเมล็ด บางทีก็อาจจะใช้วิธีหยอดเม็ดลงในถุงก๊อบแก๊บโดยตรงแล้ว รักษากล้าให้เจริญเติบโตจนถึงระยะปลูกก็ได้เช่นเดียวกัน
แบบไม่อาศัยเพศ โดยการใช้เหง้าปลูก เนื่องจากไม้แก่นเป็นไม้โตเร็ว จึงสามารถเพาะพันธุ์ตามธรรมชาติด้วยการแตกหน่อได้ด้วย
สำหรับเพื่อการกำหนดระยะ ถ้าต้องการใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ควรปลูกระยะห่าง 2x3 เมตร หรือ 4x4 เมตร แต่ว่าถ้าปลูกเพื่ออยากผลิตไม้ฟืนหรือถ่าน ควรปลูกระหว่าง 2x2 หรือ 2x4 เมตร รวมทั้งถ้าหากปลูกเพื่ออยากเก็บเม็ดในการทำแหล่งเมล็ดพันธุ์ ควรจะปลูก 2x2 หรือ 2x4
ส่วนประกอบทางเคมีสาระสำคัญกลุ่มหลักที่พบใน
สีเสียดไทย เป็น สารกลุ่มแทนนิน (tannins) ที่ทำให้พืชสมุนไพรจำพวกนี้รสฝาด ตัวอย่างเช่น catechutannic acid ในปริมาณ 20-35%, acacatechin 2-10%, epicatechin, phlobatannin, protocatechu tannins, pyrogallic tannins, epicatechin-3-O-gallate, epigallocatechin3-O-gallate นอกจากนี้ยังพบสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavoniods) มี quercetin, quercetagetin, fisetin flavanol dimers, flavonol glycosides, 5,7,3´,4´-tetrahydroxy-3-methoxy flavone-7-O-β-D-galactopyranosyl-(1→4)-O-β-D-glucopyranoside แล้วก็ยังเจอสารกรุ๊ปอื่นๆตัวอย่างเช่น catechu red รวมทั้ง caffeine แล้วก็ถ้าแยกเป็นแต่ละส่วนออกมาจากสารต่างๆดังนี้
ใบ เจอ Catechin, Isoacacatechol, Tannins isoaca catechol acetate
เปลือกต้นพบสารจำพวก Catechol, Gallic acid, Tannin, แก่นมีสาร Catechin, Dicatechin, 3′ ,4′ ,7′ , -Tri-O-methyl catechin, 3′ ,4′ ,5 , 5′ , 7-sPenta-O-methyl gallocatechin, ใบมีสาร -(+)-Chatechin, Isoacacatechol, Tannins isoacacatechol acetate ส่วนทั้งต้นมีสาร Epicatechin
สรรพคุณเสียดสีในประเทศไทยมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆล้นหลาม ดังเช่นว่า มีการเปลือกต้นและก็ก้อน มาใช้ในอุตสาหกรรมย้อมผ้าและฟอกหนังสัตว์ โดยแก่นไม้หรือแก่นของจะให้สีน้ำตาล ที่สามารถประยุกต์ใช้ย้อมผ้า แห อวน แล้วก็หนังได้ หรือจะใช้เปลือกต้นเอามาย้อมเส้นไหม โดยการลอกเอาเฉพาะเปลือกต้นแล้วเอามาสับเป็นชิ้นเล็กๆต้มสกัดสีกับน้ำ ในอัตราส่วน 1:2 ซึ่งจะได้เส้นไหมสีน้ำตาล ฯลฯ
สีเสียดมีเนื้อไม้สีแดงเข้มถึงน้ำตาลแดง ลักษณะเป็นเงาเลื่อมเหนียว แข็งแรง ขัดชักเงาได้ดิบได้ดี สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำเครื่องไม้เครื่องมือ ของใช้ต่างๆหรือใช้ทำเสาเรือนใช้สำหรับกลึง สลัก สำหรับต้นที่ลักษณะไม่ดีก็ใช้ทำฟืนเชื้อเพลิงหรือใช้เพื่อสำหรับในการเผาถ่านได้ ส่วนใบใช้เป็นอาหารสัตว์ประเภท โค ควาย หรือใช้ต้นใช้เลี้ยงครั่งได้เช่นกัน นอกเหนือจากนี้ชาวเขาในเชียงใหม่ ยังมีการใช้แก่นไม้ เอามาบดกินกับหมากได้อีกด้วย
สำหรับสรรพคุณทางด้านสมุนไพรนั้น ตามตำรายาไทยได้มีการนำมาทำเป็นเครื่องยาโดยการนำแก่นต้น สับให้เป็นชิ้นๆแล้วต้มแล้วก็เคี่ยว จากนั้นระเหยน้ำที่ต้มได้ให้เหนียวข้น จะได้ของแข็งเป็นก้อน สีน้ำตาลดำ เป็นมัน แข็ง รูปร่างไม่แน่นอน ผิวนอกหยาบคาย มีด้านในด้านหนึ่งที่แตกจะแวววาว ไม่มีกลิ่น รสขม ฝาดจัด ซึ่งมีคุณประโยชน์ แก้ท้องร่วงเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ รักษาบาดแผล แก้ปากเป็นแผล ใส่แผลเปื่อยยุ่ยรวมทั้งริดสีดวง รวมทั้งอาการบาดเจ็บที่มีเลือดออก บดหรือต้มรับประทานแก้ท้องเดิน คุมธาตุ แก้บิดมูกเลือด แก้ลงแดง ทารักษารอยแผล รักษาโรคผิวหนัง ต้มล้างรอยแผล ไทยเป็นยาฝาดสมาน แก้ท้องเดิน ห้ามเลือดที่ออกจากจมูก แก้บิด ล้างแผลหัวนมแตก ล้างแผลถูกไฟเผา ทำให้แผลหายเร็ว และยังใช้ส่วนต่างๆของต้นเป็นสมุนไพรได้โดยจะมีคุณประโยชน์ดังต่อไปนี้
แก่นไม้ แก้ท้องร่วง,รักษาโรคผิวหนัง,แก้บิด,ปิดธาตุ,แก้ลงแดง
เปลือกต้น แก้บิด แก้ท้องเสีย สมานแผล แก้ท้องร่วง
เม็ดในฝัก ฝนแก้โรคหิด แผลน้ำกัดเท้า
นอกจากนั้นบัญชียาจากสมุนไพร ที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้เริ่มแรก ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) ปรากฏการใช้สีเสียดไทย ในยารักษาลักษณะของโรคในระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ ”ยาเหลืองปิดสมุทร” มีส่วนประกอบของไทย รวมทั้งเทศ ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องร่วงจำพวกที่ไม่มีสาเหตุมาจากการได้รับเชื้อ อย่างเช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดคละเคล้าและก็ท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ได้อีกด้วย
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบต้นแบบ/ขนาดการใช้ในการนำก้อนมาใช้จำเป็นต้องเอามาบดเป็นผงประมาณ 0.3-2 กรัม แล้วชงน้ำ หรือต้มเอาน้ำกินช่วยแก้อาการท้องเดิน ท้องเดิน แก้บิด หรือใช้ทารักษาแผลต่างๆก็จะช่วยรักษาแผลล้างบาดแผล ใช้ห้ามเลือด รวมทั้งรักษาโรคผิวหนัง น้ำกัดเท้าได้ แก้แผลเรื้อรัง ใช้เปลือกต้น ต้มกับน้ำ ใช้ล้างแผล หัวนมแตก ใช้ล้างแผล แก้แผลเปื่อยยุ่ยเรื้อรัง น้ำกัดเท้า แก้โรคหิด ใช้เม็ดฝัก ฝนทาแก้โรคหิด แผลน้ำกัดเท้า หรือจะใช้ผง
สีเสียดเป็นยาฝาดสมาน แก้อาการท้องเสีย โดยผสมกับผงอบเชย ในจำนวนเท่าๆกัน หากท้องเสียมากใช้ 1 กรัม ถ้าหากน้อยใช้ 1/2 กรัม ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว เคี่ยวหนึ่งชั่วโมง กรอง รับประทานทีละ 4 ช้อนแกง (ประมาณ 30 มล.) วันละ 3 ครั้ง หรือใช้ผงผสมกับน้ำมันพืช ทาแผลน้ำกัดเท้า
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยาฤทธิ์ต่อต้านจุลชีวัน มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับฤทธิ์ต่อต้านจุลชีพ พบว่าสารสกัดน้ำ เมทานอล รวมทั้งเฮกเซน จากไทยมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli O157:H7, Pseudomonas aeruginosa, Salmonella typhi, Bacillus subtilis, Bacillus cereus, Staphylococcus aureus และก็ methicillinresistant S. aureus ได้ นอกนั้นยังพบว่าสารสกัดเฮกเซนจากเปลือกต้นไทยมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา Candida albicans รวมทั้ง Aspergillus niger ได้
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีการทดลองพบว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ทดลองสารสกัดเอทานอล (80%) จากลำต้นแห้ง ความเข้มข้น 6.25 มิลลิกรัม/มล. กับเชื้อแบคทีเรีย S. aureus ในจานเพาะเชื้อ พบว่ามีฤทธิ์อ่อนๆเมื่อเปลี่ยนมาใช้สารสกัดเอทานอล (95%) จากเรสินของ
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสีเสียด
พบว่ามีฤทธิ์ มีการทดสอบน้ำสกัด สารสกัดเฮกเซน รวมทั้งสารสกัดเอทานอล ความเข้มข้น 200 มก./มล. ของพืชหลายชนิดสำหรับในการต้านทานเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆโดยวิธี agar well diffusion จากผลของการทดลองพบว่า สารสกัดเอทานอลจากเปลือกของ มีฤทธิ์ต้านทาน S. aureus ส่วนน้ำสกัดมีฤทธิ์อ่อนๆรวมทั้งสารสกัดเฮกเซนไม่มีฤทธิ์
ฤทธิ์ต้านอาการท้องเดิน สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์น้ำจากเปลือกต้น (Acacia catechu Willd.) ซึ่งประกอบด้วยสารกลุ่ม catechins เช่น (-)-epicatechin และ (+)-catechin มีฤทธิ์ลดความถี่และความแรงสำหรับในการหดเกร็งตัวของลำไส้ใหญ่รวมทั้งลำไส้เล็กส่วนปลายที่แยกได้จากหนูตะเภา โดยฤทธิ์การหยุดยั้งจะมากขึ้นตามจำนวนสารสกัดที่ให้ สารสกัดจากต้นสามารถเสริมฤทธิ์ของ calcium antagonist สำหรับในการต่อต้านการยุบเกร็งรอบๆลำไส้ใหญ่มากยิ่งกว่าส่วนของลำไส้เล็กส่วนปลาย และสามารถออกฤทธิ์คลายการหดเกร็งของลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็กส่วนปลายจากการเหนี่ยวนำด้วยสาร carbachol ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเปลือกต้นมีฤทธิ์ต้านการหดเกร็งของไส้ผ่านการขัดขวาง muscarinic receptors และก็ Ca2+ channels ของเซลล์ จากการทดสอบฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรียที่ก่อเกิดอาการท้องเสีย พบว่าสารสกัดจากต้นสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ Campylobacter jejuni, Escherichia coli แล้วก็ Salmonella spp โดยไม่มีผลต่อเชื้อจุลินทรีย์ชนิด Bifido และ Lactobacillus ในลำไส้เมื่อให้ที่ความเข้มข้น 5 เท่าของฤทธิ์ต้านการยุบเกร็ง จึงสามารถสรุปได้ว่าสารสกัดจากต้นออกฤทธิ์บรรเทาอาการท้องเดิน โดยการต้านการหดเกร็งในลำไส้มากกว่าฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ก็เลยน่าจะเป็นคุณประโยชน์ต่อการดูแลรักษาอาการท้องเสียที่มิได้มีต้นเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ฤทธิ์ต้านทานอักเสบ การทดลองนำสารสกัดผสมระหว่าง baicalin จาก Scutellaria baicalensis และ (+)- Catechin จาก A. catechu มาทดลองฤทธิ์ลดการอักเสบ พบว่าสารผสมดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถยั้งแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase (COX) และก็ 5-lipoxygenase (5-LOX) ได้ โดยมีค่า IC50 (50% inhibitory concentration) ต่อ ovine COX-1 and COX-2 peroxidase enzyme และ potato 5-LOX enzyme เท่ากับ 15 g/mL และ 25 g/mL ตามลำดับ
ฤทธิ์ต่อต้านออกซิเดชั่น การเรียนรู้ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นของส่วนสกัดเอธานอลจาก A. catechu (L.f.) Willd. ด้วยวิธี 1,1-Diphenyl-2-picrylhydrazyl (DPPH)assay โดยเปรียบเทียบกับสารมาตรฐาน Buthylated Hydroxyl toluene (BHT) แล้วก็ Quercetin ได้ค่าความเข้มข้นของสารสกัดที่ยั้งการเกิดอนุมูลอิสระได้ร้อยละ 50 (IC50) พอๆกับ 10.45μg/ml และ 2.73 μg/ml เป็นลำดับ
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยาการทดสอบความเป็นพิษทดลองฉีดสารสกัดเอทานอล (50%) จากลำต้น เข้าทางท้องหนูถีบจักร พบว่าความเข้มข้นสูงสุดที่สัตว์ทดลองทนได้ เป็น 100 มก./กก.
พิษต่อเซลล์ทดลองสารสกัดเอทานอล (50%) จากลำต้นกับ CA-9KB โดยมี ED50 มากกว่า 20 มคก./มิลลิลิตร พบว่าสารสกัดนี้ไม่มีพิษต่อเซลล์ มีการทดสอบสารสกัดจากเปลือกกับเซลล์จากปลายรากของหอมหัวใหญ่ จากการทดลองพบว่า สารสกัดจากเปลือก มีฤทธิ์ยั้งการแบ่งเซลล์เมื่อเทียบกับกรุ๊ปควบคุม
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์เมื่อทดสอบสารสกัดจากแก่นไม้แห้ง (ไม่ระบุจำพวกสารสกัด) ความเข้มข้น 250 มคก./จานเพาะเชื้อ กับ Salmonella typhimurium TA100, TA1535, TA1538, TA98 พบว่าสารสกัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นไม่มีฤทธิ์ ข้อเสนอแนะ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
การใช้สีเสียดเป็นยาสมุนไพร ควรจะพิจารณาถึงความปลอดภัย เหมือนกันกับสมุนไพรชนิดอื่น คือ ไม่สมควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และไม่ควรจะใช้เกินจำนวนที่ระบุตามตำรายา เนื่องจากว่าอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสภาพทางด้านร่างกายได้
ในการเลือกใช้
สีเสียดก้อนนั้นควรคำนึงถึงความสะอาดและก็ควรที่จะทำการเลือกก้อนที่ไม่มีสิ่งปลอมปนอื่นๆติดมาหรือควรที่จะทำการเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
เอกสารอ้างอิงนพมาศ สุนทรเจริญนนท์ และนงลักษณ์ เรืองวิเศษ.วิเคราะห์ วิจัยคุณภาพเครื่องยาไทย.คอนเซพท์ เมดิคัส จำกัด กรุงเทพมหานตรา 2551.หน้า502-510
จงรัก วัจนคุปต์. การตรวจหาสมุนไพรไทยที่มีอำนาจทำลายเชื้อแบคทีเรีย. Special Project Chulalongkorn Univ, 1952.
ผศ.ดร.ศิริมา สุวรรณกูฏ.
สีเสียด.สมุนไพรแก้ท้องร่วง.บทความสมุนไพรฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
นิจศิริ เรืองรังสี และธวัชชัย มังคละคุปต์.สมุนไพรไทย เล่ม 1.สำนักพิมพ์บี เฮลท์ตี้ กรุงเทพฯ2547.หน้า305.
.ฐานข้อมูลสมุนไพรที่มีการใช้ในผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “เหนือ Catechu Tree / Cutch Tree”. หน้า 32.
ฤทธิ์ต้านอาการท้องเสียของต้น.ข่าวความเคลื่อนไหนสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
เหนือ.กลุ่มยารักษาน้ำกัดเท้า.สรรพคุณสมุนไพร200ชนิดโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี(ออนไลน์)
สมสุข มัจฉาชีพ.พืชสมุนไพร.รุ่งศิลป์การพิมพ์.กรุงเทพฯ.พิมพ์ครั้งที่2.2542.หน้า280.
ศุภยางค์ วรวุฒิคุณชัย.หลิน กิจพิพิธ.ฤทธิ์ต้านเชื้อของสารสกัดสมุนไพรไทยต่อ clinical isolates ของ methicillinresistant Staphylococcus aureus. วารสารสงขลานครินทร์. 2548. 27(Suppl. 2) หน้า 525-34.
ไทย.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี(ออนไลน์)
วันดี กฤษณพันธ์ เกร็ดความรู้สมุนไพร.สำนักพิมพ์ดิคัล มีเดีย กรุงเทพฯ พิมพ์ครั้งที่ 2.2539หน้า125.
Shen D, Wu Q, Wang M, Yang Y, Lavoie EJ, and Simon JE. Determination of the Predominant Catechins in Acacia catechu by Liquid Chromatography/Electrospray Ionization-Mass Spectrometry. J. Agric. Food Chem 2006, 54 (9): 3219-24.
หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). “
คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบสีเสียด
เหนือ”. หน้า 784-785.
Valsaraj R, Pushpangadan P, Smitt UW, Adsersen A, Nyman U. Antimicrobial screening of selected medicinal plants from India. J Ethnopharmacol 1997;58(2):75-83.
. Saini ML, Saini R, Roy S, and Kumar A. Comparative pharmacognostical and antimicrobial studies of acacia species (Mimosaceae). J Med Plants Res 2008, 2 (12): 378-86.
Shrimal SK. Antimitotic effect of certain bark extracts. Broteria Ser Trimest Cieng Nat 1978;48(3/4):55-8.
Jayshree D. Patel, Vipin Kumar, Shreyas A. Bhatt. Antimicrobial screening and phytochemical analysis of the resin part of Acacia catechu. Pharmaceutical Biology 2009, 47(1): 34-7.
Ray PG, Majumdar SK. Antimicrobial activity of some Indian plants. Econ Bot 1976; 30:317-20.
. Burnett BP, Jia Q, Zhao Y, and Levy RM. A Medicinal Extract of Scutellaria baicalensis and Acacia catechu Acts as a Dual Inhibitor of Cyclooxygenase and 5-Lipoxygenase to Reduce Inflammation. J Med Food 2007, 10 (3): 442-51.
Dhar ML, Dhar MM, Dhawan BN, Mehrotra BN, Ray C. Screening of Indian plants for biological activity: part I. Indian J Exp Biol 1968; 6:232-47.
Ramli S, Bunrathep S, Tansaringkarn T, and Ruangrungsi N. Screening for free radical scavenging activity from ethanolic extract of Mimosaceous plants endemic to Thailand. J Health Res 2008, 22(2): 55-9.
Nagabhushan M, Amonkar AJ, Nair UJ, Santhanam U, Ammigan N, D'souza AV, Bhide SV. Catechin as an antimutagen: its mode of action. J Cancer Res Clin Oncol 1988;114(2):177-82.
Ahmad I, Mehmood Z, Mohammad F. Screening of some Indian medicinal plants for their antimicrobial properties. J Ethnopharmacol 1998;62:183-93.
Tags : ประโยชน์สีเสียด,สรรพคุณสีเสียด