เคยตำน้ำพริกกะปิ กิจกรรมพิเศษแทรกระหว่างเรียนวิชาภาษาไทยที่โรงเรียนจิตรลดา พอนำกลับบ้านให้คุณปู่สุดที่รัก “เตือน พาทยกุล” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย) พ.ศ.2535 ลองชิมปรากฏว่า คำชมของคุณปู่ทำให้ “ดิว-ขจิตธรรม พาทยกุล” ผู้บริหารโรงเรียนพาทยกุลการดนตรีและนาฏศิลป์ ใจชื้นมีกำลังใจขึ้นมาก เพราะถือว่า “น้ำพริก” เป็นอาหารประจำครอบครัวที่ทุกคนชื่นชอบและขาดจากโต๊ะอาหารไม่ได้ “ทำครั้งแรกคุณปู่กินหมดเลย รู้สึกว่า เออ...เราทำน้ำพริกได้ดี หลังจากนั้นฝึกปรือเป็นลูกมือคุณแม่เรื่อยมาแต่ไม่จริงจังมาก ได้ใช้ทักษะเต็มที่ตอนเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งนี้การทำอาหารต้องทำด้วยความรัก ทำให้รู้ว่าเราชอบกินอะไรทำให้ใครกิน อย่างคุณพ่อต้องปรุงรสออกเปรี้ยว แต่คุณแม่ชอบรสเค็มหวาน ซึ่งความสนใจในรายละเอียดปลีกย่อยนี้ แสดงออกถึงความใส่ใจคนที่เรารักผ่านการทำอาหาร” คุณดิวเล่า    ส่วนตัวคิดว่าอาหารไทยมีเสน่ห์ด้านรสชาติที่ไม่มีมาตรฐานตายตัว ต้องหมั่นทำไปชิมไป ปรับปรุงรสตามที่เราชอบ แต่อย่าให้รสใดรสหนึ่งโดดขึ้นมากลบความกลมกล่อม สำหรับสูตร “น้ำพริกไข่ปู” นี้คุณแม่ “วราพร พาทยกุล” เป็นคนเริ่มทำจำได้ราง ๆ ว่ากินมาตั้งแต่สมัยคุณยายแล้ว ตอนเด็กมักได้ยินเสียงตำโป๊ก ๆ ดังแว่วจากครัวประจำ นอกจากคุณแม่ชอบทำกินกันเองภายในครอบครัว ยังทำเป็นชุดพร้อมผักเคียงแจกจ่ายเพื่อนบ้านและคนรู้จัก ต่อมากลายเป็น “แม่ค้าจำเป็น” เพราะหลายคนกินแล้วติด ใจสั่งซื้อไปฝากญาติผู้ใหญ่ คุณแม่ใจอ่อนยอมรับออร์เดอร์ แต่เฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยมีดิวคอยเป็นลูกมือ ถือเป็นกิจกรรมสนุกสนานไม่หวังกำไร เพราะคุณแม่จัดเต็มเน้นคุณภาพจริง ๆ     ส่วนผสมน้ำพริกไข่ปู มีไข่ปูและเนื้อปูตามชอบ, ไข่เค็ม 1 ฟอง, กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, มะนาว 3 1/2 ช้อนโต๊ะ, พริก 5 เม็ด, พริกเม็ดใหญ่และพริกขี้หนูสำหรับโรยหน้า ส่วนผักเคียงคุณดิวเลือกชนิดที่กินเข้ารสกับน้ำพริกไข่ปูได้ดี ทั้งต้นหอม, ดอกกะหล่ำปลี, บรอกโคลี, แครอท, มะเขือ, ขมิ้น, แตงกวา, หัวไชเท้า โดยนำมาต้มทั้งหมด ระหว่างต้มใส่เกลือเล็กน้อยแล้วนำมาช็อกกับน้ำเย็น ถนอมความสดให้ผักน่ากินยาวนานยิ่งขึ้น    จากนั้นลงมือตำน้ำพริก เตรียมครกให้พร้อมแล้วใส่กระเทียมตามด้วยพริกตำบุพอแหลก จากนั้นแบ่งไข่เค็มเป็นสองซีก ใช้ช้อนควักออกทั้งไข่แดงและไข่ขาว ตำให้เข้ากันใส่เนื้อปูและไข่ปูที่อุ่นมาร้อน ๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา สำหรับน้ำปลาต้องระวังอย่าหนักมือเกินไป เพราะน้ำพริกได้ความเค็มจากไข่เค็มส่วนหนึ่งแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ไม่ต้องตำแล้ว ค่อยๆ คนให้เข้ากัน ชิมรสจนเข้มข้นได้ที่ตักใส่ถ้วยกินพร้อมผักเคียง    ก่อนตักข้าวสวยร้อน ๆ มาลองชิม คุณดิวย้ำว่า สูตรน้ำพริกไข่ปูของบางคนใส่เนื้อและไข่ปูเพียว ๆ แต่สูตรของ ดิวเพิ่มความอร่อยด้วยการผสมไข่เค็มลงไปเพิ่มความมัน ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าเป็นไข่ปูกับเนื้อปูอย่างเดียวรสติดขม แต่จะใส่หรือไม่ใส่ไข่เค็ม ก็ไม่ผิดกติกาอย่างที่บอกว่าเสน่ห์อาหารไทยอยู่ที่การปรุงตามชอบนั่นเอง.  ‘ช้องมาศ’            



ขอขอบคุณแหล่งที่มา : คุณไม่สามารถมองเห็น links ได้ กรุณา.สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ